วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

    ทำที่……………………………...
    วันที่………..เดือน……………………พ.ศ…………..
                                  สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง ……………………………………………………….
ตั้งอยู่เลขที่………………ตรอก/ซอย………………..ถนน…………………ตำบล/แขวง…………………...อำเภอ/เขต…………………จังหวัด…………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะขาย” ฝ่ายหนึ่ง กับ……………………ถือบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ เลขที่…………………… ที่อยู่ติดต่อได้เลขที่………………ตรอก/ซอย……………..ถนน…………ตำบล/แขวง……...อำเภอ/เขต………จังหวัด…….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
        ข้อ 1.  ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
    ผู้จะซื้อตกลงที่จะซื้อและผู้จะขายตกลงที่จะขายบ้านเนื้อที่…………………ตารางเมตรบนโฉนดที่แปลงหมายเลขที่…………………..ปรากฏตามแผนผังสังเขปแนบท้ายสัญญาและถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ เป็นอาคารบ้านพักอาศัยแบบ…………………..จำนวน………………หลัง สิ่งปลูกสร้างตลอดจนรายละเอียดอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับของทางราชการทีเกี่ยวข้องหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ หรือมีเหตุจำเป็นทางวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรมหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น
        ข้อ 2.  เงื่อนไขการชำระเงิน
2.1 ผู้จะซื้อตกลงที่จะทำการชำระเงินให้แก่ผู้จะขาย ณ สถานที่ที่ทำการของผู้จะขายหรือสถานที่อื่นใดตามที่ผู้จะขายจะกำหนด
2.2 ในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านเป็นเงินจำนวน………………………..บาท (……………………………….) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวทั้งหมดถือว่าเป็นเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญา ในกรณีที่ผู้จะซื้อปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนเงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของราคาบ้านที่ผู้จะซื้อต้องชำระทั้งสิ้น
2.3  ผู้จะซื้อต้องชำระเงินค่างวดให้แก่ผู้จะขายอีกเป็นเงินจำนวน………………บาท (………………) ผู้จะซื้อตกลงที่จะทำการชำระเงินจำนวนดังกล่าวเป็นรายเดือน เดือน ละ……………บาท (……………..) เป็นระยะเวลา…………………เดือน ทั้งนี้ผู้จะซื้อตกลงชำระเงินจำนวนดังกล่าวภายในวันที่……………ของทุกเดือน โดยเริ่มชำระเงินงวดแรกในเดือน………… พ.ศ………………..
2.4 เงินงวดสุดท้ายที่เหลืออีก……………….บาท (…………………………………)  ผู้จะซื้อต้องชำระให้แก่ผู้จะขายภายในวันที่………ของเดือน………………..พ.ศ…………
2.5 ในวันที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ณ สำนักงานที่ดิน สาขา………………………..หลังจากการก่อสร้างหรือชำระเงินรายงวดเดือนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งผู้จะขายได้กำหนดนัดแจ้งล่วงหน้าให้ผู้จะซื้อทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง โดยจะทำการแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า……………….วัน และผู้จะซื้อจะต้องชำระเงินส่วนที่เหลือ จำนวน………………….บาท (………………………) โดยชำระเป็นเงินสด/เช็คขีดคร่อม/แคชเชียร์เช็คในนามผู้จะขาย…………….วัน นับแต่วันที่ผู้จะขายได้แจ้งถึงเหตุขัดข้องให้ผู้จะซื้อทราบ
2.6  ผู้จะซื้อจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้จะขายตามจำนวนและกำหนดเวลาในข้อ 2.3 หากผู้จะซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวหรือผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้จะขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาฉบับนี้และริบเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระทั้งหมดทันที โดยผู้จะซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าตอบแทนใดๆ ทั้งยอมให้ผู้จะขายนำบ้านที่จะซื้อจะขายตามสัญญานี้ไปขายให้แก่บุคคลอื่นได้โดยไม่โต้แย้งหรือเรียกร้องเอาประโยชน์อื่นใด รวมทั้งค่าเสียหายจากผู้จะขายทั้งสิ้นหรือเมื่อผู้จะซื้อได้ผิดนัดชำระเงินตามวรรคก่อนแต่ผู้จะขายเลือกที่จะทำการได้แจ้งให้ผู้จะซื้อปฏิบัติตามสัญญาและชำระเงินที่ค้างชำระกันภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือบอกกล่าวของผู้จะขาย  ในกรณีดังกล่าวผู้จะซื้อต้องชำระเงินที่ค้างชำระภายในกำหนดเวลาพร้อมกับเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของจำนวนเงินที่ค้างชำระ  โดยให้คิดตั้งแต่วันที่จำนวนเงิน      ดังกล่าวถึงกำหนดชำระจนถึงวันที่ได้รับชำระแล้ว การกระทำดังกล่าวนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้จะขายในการดำเนินการอย่างอื่นตามสัญญานี้
2.7 หากผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินค่างวดของแต่ละเดือนเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกันผู้จะขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ และริบเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระมาแล้วทั้งหมดได้ทันที โดยผู้จะซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ทั้งยอมให้ผู้จะขายนำบ้านที่จะซื้อจะขายตามสัญญานี้ไปขายให้แก่บุคคลอื่นได้โดยไม่โต้แย้งหรือเรียกร้องเอาประโยชน์อื่นใด รวมทั้งค่าเสียหายจากผู้จะขายทั้งสิ้น
2.8 ผู้จะซื้อสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายอย่างใดๆ ในกรณีที่ผู้จะขายไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปเพราะเหตุสุดวิสัย ภาวะสงคราม หรือต้องห้ามตามกฎหมาย เป็นต้น ผู้จะขายจะทำการคืนเงินทั้งหมดที่ได้รับมาผู้จะซื้อให้แก่ผู้จะซื้อจนครบ โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่เรียกร้องดอกเบี้ยหรือค่าเสียหายอื่นใดต่อกันอีก
          ข้อ 3.  ค่าธรรมเนียม อากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม
3.1 ผู้จะซื้อมีหน้าที่ออกค่าธรรมเนียม อากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่จะต้องชำระให้แก่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง โดยชำระเป็นเงินสดในวันที่ทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน………………………………
3.2 ผู้จะขายเป็นผู้ชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ถึงกำหนดชำระก่อนหรือในวัน           จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ถึงกำหนดชำระหลังจากวันดังกล่าวผู้จะซื้อ          จะต้องเป็นผู้ชำระเองทั้งสิ้น
         ข้อ 4.  การโอนสิทธิ   ผู้จะซื้อจะทำการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาฉบับนี้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้จะขาย โดยแจ้งความประสงค์พร้อมทั้งรายละเอียดของผู้รับโอนเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังผู้จะขายเพี่อพิจารณา และทั้งนี้หากผู้จะขายตกลงยินยอมกับการโอนสิทธิและหน้าที่ ดังกล่าว ผู้จะซื้อให้สัญญาว่าตนตกลงยอมจ่ายค่าธรรมเนียมในการสัญญาฉบับใหม่เป็นเงินจำนวน………………บาท (……………………….) ให้แก่ผู้จะขายในวันทำสัญญาฉบับใหม่
อนึ่ง  ในกรณีที่มีการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานี้ ผู้รับโอนจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขในสัญญานี้ทุกประการ
          ข้อ  5.  ในกรณีที่มีความตกลงอื่นใดที่นอกเหนือจากข้อตกลงในสัญญาฉบับนี้แล้ว และข้อตกลงใหม่ที่จะดำเนินความตกลงกันนั้นไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเดิม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายให้สัญญาว่าจะทำบันทึกข้อตกลงไว้เป็นลายลักษณ์อักษรลงลายมือชี่อทั้งสองฝ่ายแนบท้ายสัญญา ฉบับนี้ และบันทึกข้อตกลงดังกล่าวที่แนบไว้ท้ายสัญญาให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ด้วย
สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านข้อความและเข้าใจสัญญาดีแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยานและเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ

    ลงชื่อ…………………………….ผู้จะขาย
             (………………………………….)
    ลงชื่อ………………….……....….ผู้จะซื้อ
             (………………………………….)
    ลงชื่อ………………..….………….พยาน
             (………………………………….)
    ลงชื่อ……………………...……….พยาน
             (………………………………….)