วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

สัญญาเช่ากิจการร้านอาหาร

สัญญาเช่ากิจการร้านอาหาร
ทำที่……………………………………………
……………………………………………
วันที่ ………………… เดือน……………..……พ.ศ…………………

สัญญานี้ทำขึ้นระหว่างบริษัท…………………………………………………….โดย………….
………………………………….กรรมการผู้มีอำนาจจัดการ  มีสำนักงานอยู่เลขที่ …...…………….…….ถนน……………….  ตำบล/แขวง  ………….……….อำเภอ/เขต…………………จังหวัด……………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า  “ผู้ให้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง  กับบริษัท……………………………………… โดย….……..……….……………...…กรรมการผู้มีอำนาจจัดการ  มีสำนักงานอยู่เลขที่……………… ถนน…………………ตำบล/แขวง……………………..อำเภอ/เขต….………. ……………………….จังหวัด…………………………..… ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า”  อีกฝ่ายหนึ่ง
โดยที่ผู้ให้เช่าประสงค์จะให้เช่ากิจการร้านอาหาร   ซึ่งประกอบด้วย  อาคารที่ประกอบการเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์  และกู๊ดวิลล์
โดยที่ผู้เช่าประสงค์จะเช้ากิจการร้านอาหารจากผู้ให้เช่า
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงทำสัญญาเช่ากัน   มีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ  1.  ทรัพย์ที่เช่า
ผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของและกิจการร้านอาหาร   ชื่อ ……………………………………………….
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ร้านอาหาร”    ซึ่งตั้งอยู่บนโฉนดเลขที่………………เลขที่ดิน……….
ตำบลตำบล/แขวง……………………..อำเภอ/เขต….………. …….จังหวัด…………………………..…
    ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าร้านอาหาร   อันประกอบด้วย  อาคารที่ประกอบการเฟอร์นิเจอร์  และกู๊ดวิลล์  รายละเอียดปรากฏตามบันทึกทรัพย์สินที่แนบท้ายสัญญาฉบับนี้  และให้ถือว่าเอกสารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
    ข้อ  2.  ระยะเวลาการเช่า
    คู่สัญญาตกลงทำสัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา ………….ปี นับตั้งแต่วันที่……….เดือน………..
พ.ศ…………………………………ถึงวันที่ ……………เดือน…………………..พ.ศ. …………………
    ข้อ  3.  ค่าตอบแทนการให้เช่า
    เพื่อเป็นค่าตอบแทนการให้เช่า ผู้เช่าตกลงชำระเงินจำนวน …………………บาท (……………
……………………) ให้แก่ผู้ให้เช่า   และผู้ให้เช่าได้รับไว้เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญานี้
   
ข้อ  4.  ค่าเช่าและการชำระค่าเช่า
    ผู้เช่าตกลงจะชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า   เป็นรายเดือน   โดยแต่ละเดือนมีจำนวนดังนี้
ระหว่างปีที่     ค่าเช่าอาคารประกอบการ      ค่าเช่าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์    ค่ากู๊ดวิลล์    รวมทั้งหมด   
 1            -            -                    -          -
 2            -            -                    -          -
 3            -            -                    -          -

    ในการชำระค่าเช่า ผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าทุกภายในวันที่……………ของทุกเดือน ณ …………………………..
    ข้อ  5.  การส่งมอบทรัพย์ที่เช่า
    ในวันทำสัญญา   ผู้ให้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์ที่เช่าและผู้เช่าได้รับมอบทรัพย์ที่เช่าไว้เรียบร้อยแล้วร้อย    และตรงตามบัญชีทรัพย์สินที่แนบท้ายสัญญานี้
    ข้อ  6.  การใช้ชื่อประกอบกิจการ
    คู่สัญญาตกลงว่า  ผู้เช่าจะใช้ชื่อและสัญลักษณ์เดิมต่าง ๆ   ของผู้ให้เช่าตลอดอายุการเช่าตามสัญญานี้
    ข้อ  7.  การจดทะเบียนการเช่า
    คู่สัญญาตกลงที่จะไปจดทะเบียนการเช่าตามสัญญานี้  ณ  สำนักงานที่ดิน…………………..
ในวันที่………….เดือน……………………..พ.ศ. ……………………..
    ข้อ  8.   ภาษี
    ผู้ให้เช่าตกลงที่จะชำระบรรดาค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินเอง  แต่สำหรับภาษีอากรซึ่งเกี่ยวกับการดำเนินกิจการร้านอาหาร   ผู้เช่าตกลงจะเป็นผู้เสีย
    ข้อ  9.  หน้าที่ของผู้เช่า
    (1)  ผู้เช่าจะใช้ร้านอาหารที่เช่าสำหรับการกระทำกิจการร้านอาหารเท่านั้น และจะต้องไม่กระทำหรือยินยอมให้กระทำการใด ๆ ในร้านอาหาร ซึ่งเป็นการค้าที่ผิดกฎหมายหรือเป็นที่น่ารังเกียจ หรือเป็นอันตราย หรือทำให้ใบอนุญาตในการดำเนินการร้านอาหารของผู้ให้เช่าสิ้นสุดลง
    (2)  ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับทั้งปวงเกี่ยวกับการประกอบกิจการร้านอาหารในประเทศไทย ซึ่งออกโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ   รวมทั้งจะยื่นขอให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งให้อนุญาตทั้งหลายที่จำเป็นเกี่ยวกับกิจการดังกล่าว
    (3)  ผู้เช่าจะต้องจัดให้มีการประกันภัย เพื่อความรับผิดต่อสาธารณชนทั่วไปอันเนื่องมาจากการประกอบกิจการร้านอาหารดังกล่าว
    (4)  ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอกอันเป็นผลเนื่องมาจากการประกอบกิจการร้านอาหารโดยผู้เช่า
    (5)  ผู้เช่าจะต้องดูแลและบำรุงรักษาร้านอาหารและทรัพย์สินที่เช่าให้อยู่ในสภาพดีตามปกติทุก
ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาเช่ากันมีข้อความสำคัญดังต่อไปนี้ :-ประการ และส่งมอบทรัพย์สินคืนในสภาพดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเช่า
    (6)  ผู้เช่าจะไม่ดัดแปลงต่อเติมร้านอาหารที่เช่าโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า เว้นเสียแต่จะเป็นการตกแต่งภายใน   ซึ่งได้กระทำให้มีมาตรฐานสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันของร้านอาหาร
    (7)  ผู้เช่าจะต้องไม่เคลื่อนย้ายทรัพย์สินที่เช่าใด ๆ   ออกจากสถานที่เช่า
    (8)  ผู้เช่าจะต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนผู้ให้เช่าเข้าตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในการเข้าตรวจตราทรัพย์ที่เช่า ผู้ให้เช่าจะต้องมีหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ………..วัน
    (9)  ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดแก่อาคารที่เช่า เครื่องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วหรือจะติดตั้งเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการกระทำหรือความประมาทเลินเล่อของผู้เช่า ตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้เช่า
    ข้อ  10.  กรณีต่ออายุสัญญาเช่า
    ในกรณีที่ผู้เช่าประสงค์จะขอเช่าต่อหลังครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาเช่าฉบับนี้  ผู้เช่าจะต้องแจ้งเป็นหนังสือล่วงหน้าแก่ผู้เช่าไม่น้อยกว่า …………..เดือน ก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าฉบับนี้ เพื่อพิจารณาตกลงกันในรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป เช่น อัตราค่าเช่า และเงื่อนไขอื่น ๆ ของสัญญาเช่า
    ข้อ  11.   กรณีผู้ให้เช่าจะขายร้าน
    ในกรณีที่ผู้ให้เช่าประสงค์จะขายร้านอาหาร  ผู้ให้เช่าจะต้องให้สิทธิแก่ผู้เช่าที่จะซื้อเป็นรายแรกในราคาที่เสนอขายนั้น โดยให้เวลาดังกล่าว ผู้ให้เช่าจึงจะเสนอขายร้านอาหารดังกล่าวให้บุคคลอื่นใด
    ข้อ  12.   กรณีผู้เช่าถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
    ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ผู้เช่า   หรือมีคำสั่งให้ผู้เช่าเป็นบุคคลล้มละลายให้การเช่าตามสัญญานี้สิ้นสุดลง แม้ว่าจะยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการเช่าตามที่ระบุในสัญญานี้   ก็ตาม
    ข้อ  13.   กรณีผู้เช่าผิดสัญญา
    ในกรณีที่ผู้เช่าผิดสัญญาไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใดหรือหลายข้อรวมกัน  ผู้ให้เช่ามีสิทธิดังต่อไปนี้
(1)    บอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องภายในกำหนดเวลาที่ผู้ให้เช่าเห็นสมควรและ/หรือ
(2)    เรียกค่าเสียหาย  และ/หรือ
(3)    บอกเลิกสัญญา
ในการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น   ผู้ให้เช่าอาจใช้สิทธิดังกล่าวแยกกันหรือรวมกันก็ได้
ข้อ  14 กรณีผิดนัดชำระค่าเช่าและกรณีเรียกค่าเสียหาย
ในกรณีผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่า  หรือในกรณีผู้เช่าจะต้องชดให้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่า นอกจากผู้เช่าชำระค่าเช่าหรือค่าเสียหายนั้นจนเต็มจำนวนแล้ว   ผู้เช่ายังจะต้องชดใช้ดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีนับจากวันผิดนัดจนกว่าจะชำระเสร็จ
ข้อ  15.  กรณีสัญญาเลิกกัน
(1)  ในกรณีที่สัญญาเลิกกัน ผู้เช่าจะต้องขนย้ายบริวารและทรัพย์สินตัวของผู้เช่นออกจากทรัพย์ที่เช่า และส่งคืนทรัพย์ที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพเรียบร้อย ภายในเวลา…………….วัน นับจากวันที่สัญญาเลิกกัน และในช่วงเวลานั้นให้ผู้เข้าชดใช้ค่าเสียหายนับจากวันสัญญาเลิกกันถึงวันส่งคืนทรัพย์ที่เช่าในอัตราวันละ ……………………………….. บาท (……………………………………….)
(2)  ในกรณีที่ครบกำหนดระยะเวลาตาม (1) แล้ว ผู้เช่ายังไม่ได้ส่งคืนทรัพย์ที่เช่าหรือยังไม่ให้บุคคลหรือยังไม่นำทรัพย์สินส่วนตัวของผู้เช่าออกจากทรัพย์ที่เช่า   หรือยังไม่ได้ซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าอยู่ในสภาพเรียบร้อย   ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครองสถานที่เช่าได้ และให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิย้ายบุคคลหรือทรัพย์สินส่วนตัวของผู้เช่า   หรือจัดการซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย   โดยผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ผู้ให้เช่าเสียไป
สัญญานี้ทำขึ้นเป็น…………..ฉบับ   มีข้อความถูกต้องตรงกัน ฉบับนี้ …………………………เป็นผู้ถือ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความดีแล้ว   เห็นว่าสัญญาถูกต้องตามเจตนาทุกประการจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน   ตามวัน เดือน ปี ที่กล่าวไว้ข้างต้น

ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า   ลงชื่อ…………………………………….ผู้เช่า
        (……………………………………)                      (……………………………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน    ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (……………………………………)                       (……………………………………)

สัญญาเช่าโรงงาน

สัญญาเช่าโรงงาน

ทำที่……………………………………..…………
วันที่…………..เดือน………………………….. พ.ศ. ………….

    สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง………..……………………………โดย…………………….……...
ผู้มีอำนาจกระทำการแทน     สำนักงานตั้งอยู่  ณ……………………………ตรอก/ซอย………………….ถนน………………..ตำบล/แขวง……………….อำเภอ/เขต………………..จังหวัด…………….………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า  “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง กับ
………………………..………โดย……….…………………………..ผู้มีอำนาจกระทำการแทนสำนักงานตั้งอยู่ ณ ……………….……………………ตรอก/ซอย…………ถนน………………………ตำบล/แขวง……………………..อำเภอ/เขต……………………จังหวัด………………………..ซึ่งต่อไป
ในสัญญานี้เรียกว่า  “ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
    คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
    ข้อ 1.  ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเข้าเช่าและใช้โรงงานเพื่อดำเนินการผลิตสินค้าประเภท…………..
……………………………………………………………………………………………………………..
โดยโรงงานตั้งอยู่  ณ  เลขที่……………..ถนน……………………ตำบล/แขวง………………………….
อำเภอ/เขต………………………..จังหวัด…………………………บนที่ดินแปลงโฉนดเลขที่…………..
จำนวนเนื้อที่ทั้งหมดทั้งตัวอาคารโรงงานและเนื้อที่ใกล้เคียงจำนวน…..………ตารางเมตร โดยมีกำหนด
ระยะเวลาทั้งสิ้น….……ปี……….เดือน
    ข้อ 2.  ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าและเงินค่าประกันตามสัญญานี้ให้แก่ผู้ให้เช่าดังต่อไปนี้
        2.1 ผู้เช่าตกลงมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคาร……………………………………...
สาขา……………………………….เป็นเงินสดจำนวน………………บาท (……………………………..)
เพื่อการปฏิบัติการตามสัญญานี้ และหากปรากฏว่าผู้เช่ามีการผิดนัดผิดสัญญาอันก่อให้เกิดความเสียหายใด
ๆ  แก่ผู้ให้เช่าตามสัญญาฉบับนี้  ผู้ให้เช่ามีอำนาจในการยึดเอาหลักประกันดังกล่าวข้างต้นไว้เพื่อชดใช้
ค่าเสียหายข้างต้นได้
        2.2 ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้แก้ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือน/ปี หรืออื่น ๆ (ระบุ)……………..
ในอัตราค่าเช่าเป็นเงินจำนวน…………....บาท (……..………………………….) เริ่มชำระครั้งแรกวัน
ที่……….และชำระต่อไปทุก ๆ วันที่….…ของเดือนจนถึงเดือน………………………อันเป็นการสิ้นสุด
แห่งสัญญานี้

    ข้อ 3.  ผู้เช่าจะเป็นผู้รับภาระในค่าภาษี ค่าธรรมเนียม หรือเงินอย่างอื่นอันเกี่ยวกับการดำเนินการ
ที่ผู้เช่าต้องมีหน้าที่ที่ชำระตามกฎหมาย รวมถึงภาระในการเสียค่าภาษี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่
ผู้ให้เช่าต้องเป็นผู้ชำระนับแต่วันที่ทำสัญญาฉบับนี้
    ข้อ 4.  คู่สัญญาตกลงยอมรับเอารายการทรัพย์สินต่อไปนี้ว่าปรากฏอยู่ในทรัพย์สินที่เช่ากันตาม
สัญญาฉบับนี้
4.1    เครื่องประเภท………………………………………………………………………
4.2    โทรศัพท์จำนวนทั้งสิ้น …………..หมายเลข ได้แก่ ……………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………
                    (รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงาน)
    ข้อ 5.  นับแต่วันที่ทำสัญญาฉบับนี้ ผู้เช่าต้องดำเนินการผลิตสินค้าและผลิตผลพลอยได้ต่าง ๆ ในปริมาณไม่ต่ำกว่า …………………ต่อวัน และได้ผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นโดยรวมต่อเดือนจำนวน………….
ถ้าผู้เช่าต้องหยุดการดำเนินการผลิตเพราะเหตุสุดวิสัยทำให้การผลิตลดลง  ผู้เช่าต้องรีบแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรถึงเหตุดังกล่าวนั้นให้ผู้ให้เช่าทราบทันทีภายใน………………ชั่วโมง   และถ้ามีความจำเป็นต้องหยุดการผลิตหรือจำเป็นต้องลงการผลิตลงนั้นสามารถรู้ได้ล่วงหน้า  ผู้เช่าต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าทันทีที่ผู้เช่าทราบถึงความจำเป็นนั้น  และเมื่อมีเหตุสมควรผู้ให้เช่าจึงจะให้ความยินยอมให้หยุดหรือลดการผลิตได้   ในกรณีที่เหตุสุดวิสัยดังกล่าวได้เกิดขึ้นในวันก่อนหยุดทำการ และผู้เช่าไม่สามารถแจ้งได้ทันในวันนั้น   หรือเหตุดังกล่าวได้เกิดขึ้นในวันหยุดทำการ  ก็ให้ผู้เช่าแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบทันทีด้วยวาจาไว้ชั้นหนึ่งก่อน  แล้วจึงแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันแรกที่เปิดทำการ
    ข้อ 6.  ชนิดและคุณภาพของผลิตภัณฑ์
…………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
    ข้อ 7.  การรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น คุณภาพน้ำทิ้ง   อากาศ สารเคมี และอื่น ๆ 
…………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
    ข้อ 8.  การควบคุมด้านต่าง ๆ  เช่น ขั้นตอนการผลิตและซ่อมแซม  คุณภาพของพนักงาน  การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์  การฝึกอบรมพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ให้มีทักษะในการผลิต  และอื่น ๆ 
…………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
    ข้อ 9.  ผู้เช่าต้องนำโรงงานไปทำการประกันวินาศภัยไว้กับบริษัทประกันภัย……………………
ที่ผู้ให้เช่าให้ความเห็น  และต้องกำหนดให้ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยนี้  และผู้เช่าจะเป็นผู้รับภาระในการส่งเบี้ยประกันภัยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ  เองทั้งสิ้น
    อนึ่ง  ผู้เช่าต้องส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ผู้ให้เช่าภายใน ……………วัน นับแต่วันที่ได้ทำประกันวินาศภัยแล้ว เพื่อให้เช่าเป็นผู้เก็บรักษากรมธรรม์เอาไว้
    ข้อ 10.  ผู้เช่าต้องปฏิบัติตามสัญญาฉบับนี้และปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการอันเกี่ยวกับการดำเนินการตามโรงงานในสัญญาฉบับนี้   ห้ามมิให้ผู้เช่าโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นหรือให้บุคคลอื่นเข้ามารับช่วงสิทธิตามสัญญาฉบับนี้
    หากผู้เช่าหรือตัวแทนหรือผู้แทนของผู้เช่าปฏิบัติผิดนัดผิดสัญญา   ผิดกฎหมาย  ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดจากการนั้นทั้งสิ้นโดยลำพัง   ผู้ให้เช่าจะไม่ร่วมรับผิดในผลแห่งการที่ได้มีการกระทำลงตามความก่อน
    ข้อ 11.  ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้เมื่อปรากฏว่า
11.1    ผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดนัดแห่งสัญญานี้
11.2    ผู้เช่าไม่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามสัญญาอันเกี่ยวกับเรื่องการประกันภัย  การค้ำประกันและการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานี้
11.3    ผู้เช่าไม่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามการชำระค่าภาษี  ค่าธรรมเนียม  การเริ่มดำเนินการผลิต  การดูแลรักษาซ่อมแซม   และการปฏิบัติตามกฎหมาย
11.4    อื่น ๆ  (ระบุ) ……………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….
    ข้อ 12.  เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดตามกำหนดเวลาในสัญญานี้  ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าครอบครองโรงงานต่อไปได้และชำระค่าเช่าตามปกติแห่งสัญญานี้เพื่อดำเนินการโยกย้ายผลิตภัณฑ์ของตนออกไปจากโรงงานและยุติการผลิตนับแต่วันที่สัญญานี้สิ้นสุดลง  ในการนี้ผู้เช่าต้องส่งมอบบรรดาทรัพย์สินดังกล่าวรวมทั้งทรัพย์สินที่จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าต่อไปภายหน้าในสภาพที่ซ่อมแซมดีแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลาโดยปกติแห่งการใช้งานนั้น   และถ้าปรากฏว่ายังมีทรัพย์สินที่ชำรุดและเสียหายอยู่โดยผู้เช่าไม่ดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้ดีดังเดิมและใช้งานได้ปกติแล้ว ผู้ให้เช่าสามารถเรียกร้องเอาค่าเสียหายนั้นจากหลักประกันดังกล่าวที่ผู้เช่าได้ยอมไว้ให้แก่ผู้ให้เช่าได้ทันที
    ข้อ 13.  อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………….


    สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจดีแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานและประทับตราไว้ต่อหน้าพยานเป็นสำคัญ  และคู่สัญญาได้เก็บสัญญาไว้ฝ่ายและฉบับ

ลงชื่อ………………………………….ผู้ให้เช่า  
        (………………………………….)

ลงชื่อ……………………………………..ผู้เช่า
       (………………………………………..)

ลงชื่อ……………………………………..พยาน
        (……………………………………..)

ลงชื่อ……………………………………..พยาน
        (……………………………………..)


   

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

สัญญาเช่าโกดังสินค้า

สัญญาเช่าโกดังสินค้า

ทำที่……………………………………………
……………………………………………
วันที่ ………………… เดือน……………..……พ.ศ…………………

สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………………………………อยู่บ้านเลขที่….……….
ถนน……………………………………. ตำบล/แขวง ………….……….อำเภอ/เขต…………………..จังหวัด……………………..……..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง กับ……………….
……………………………………… อยู่บ้านเลขที่….……..……….………ถนน……...………………
ตำบล/แขวง ………….……….อำเภอ/เขต…………………..จังหวัด……………… …………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาเช่ากัน  มีข้อความดังจะกล่าวต่อไปนี้
ข้อ  1.   ทรัพย์ที่เช่า
ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าโกดังสินค้า ชื่อ ………………………………………….
ตั้งอยู่เลขที่…………………….ถนน ……………………….ตำบล/แขวง………………………………..อำเภอ/เขต………. …….จังหวัด…………………………..…   มีขนาดความกว้าง ………………เมตร
ยาว…………เมตร   เนื้อที่ประมาณ …………………..ตารางเมตร ปรากฏตามแผนผังแนบท้ายสัญญานี้
และให้ถือว่าแผนผังดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
    ข้อ  2.  วัตถุประสงค์ของการเช่า
    การเช่านี้ก็เพื่อใช้เป็นที่เก็บสินค้าประเภท……………………………………………………….
……………………………………………เท่านั้น
    ข้อ  3.  ระยะเวลาและอัตราค่าเช่า
    ผู้เช่าตกลงเช่าทรัพย์ตามข้อ  1 กำหนด…….. ………….ปี นับตั้งแต่วันที่……….เดือน………..
พ.ศ.......................ถึงวันที่ ……………เดือน…………………..พ.ศ. …………………โดยมีอัตราค่าเช่า
ต่อเดือน   ตารางเมตรละ  ………………………บาท (…………………………………………………) รวมทั้งหมดเป็นเงิน………………………บาท (……………………………………………)   ต่อเดือน
    ผู้เช่าตกลงจะชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน   โดยจะชำระภายในวันที่ ……………ของทุกเดือน         ณ ……………………………………………….
    ข้อ  4.  เงินประกันการเช่า
    ในวันทำสัญญานี้  ผู้เช่าได้วางเงินประกันจำนวน………………………บาท (………………
……………………………) ให้แก่ผู้ให้เช่า เงินจำนวนดังกล่าวผู้ให้เช่าจะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงโดยผู้เช่าจะต้องไม่ติดค้างค่าเช่า   หรือมีหนี้สินอื่นที่ผู้เช่าจะต้องชำระแก่ผู้ให้เช่า
    ในกรณีที่ผู้เช่าติดค้างค่าเช่าหรือมีหนี้สินอื่นค้างชำระแก่ผู้ให้เช่า   ผู้ให้เช่าอาจหักเอาจากเงินประกันได้ หากมีเงินเหลือผู้ให้เช่า  แต่หากไม่เพียงพอผู้ให้เช่ามีสิทธิเรียกร้องจากผู้เช่าจนครบ
    ข้อ  5.  การเก็บสินค้าและใช้ทรัพย์ที่เช่า
(1)    ผู้เช่าจะต้องไม่ใช้หรืออนุญาตให้ใช้ทรัพย์ที่เช่า  หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของทรัพย์ที่เช่าเพื่อวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรมใด 
(2)    ผู้เช่าจะต้องไม่ใช้ทรัพย์ที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัย   หรือยินยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดใช้ทรัพย์ที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัย
(3)    ผู้เช่าจะต้องไม่กระทำหรือปล่อยให้มีการกระทำใด ๆ  ซึ่งเป็นการรบกวนก่อความรำคาญหรือความเสียหายให้เกิดแก่ผู้เช่าให้เช่า
(4)    ผู้เช่าจะต้องไม่เก็บรักษาหรือนำมาไว้ในทรัพย์ที่เช่าซึ่งวัตถุอันอาจเผาไหม้ได้ในตัวเอง  วัตถุเคมี  วัตถุระเบิด   วัตถุไวไฟ  หรือวัตถุที่มีสภาพเป็นอันตรายอื่น ๆ 
(5)    ผู้เช่าจะต้องไม่เก็บสินค้าซึ่งต้องห้ามตามกฎหมาย  หรือมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไว้ในทรัพย์ที่เช่า
(6)    สินค้าใดซึ่งหากการเก็บรักษาจะต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการ  หรือจะต้องแจ้งปริมาณสินค้าและหรือสถานที่เก็บรักษาให้ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้เช่าที่จะได้รับอนุญาต หรือแจ้งปริมาณสินค้า  หรือแจ้งสถานที่ที่เก็บรักษานั้น
(7)    ผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามระเบียบการใช้ทรัพย์ที่เช่า  ซึ่งผู้ให้เช่าได้กำหนดขึ้นหรือจะได้กำหนดขึ้นเพื่อให้บริการงานให้บริเวณที่ผู้เช่าอยู่   และระเบียบดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
ข้อ  6.  การประกันสินค้า
ผู้เช่ามีสิทธิที่จะประกันภัยสินค้าของตนในทรัพย์ที่เช่า  ด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ   ของผู้เช่าเอง      อย่างไรก็ตามผู้เช่าจะต้องแจ้งรายละเอียดและส่งสำเนากรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้เช่าได้ทำไว้นั้นให้แก่ผู้ให้เช่า ภายใน……………….วัน นับแต่วันที่สำคัญประกันภัย
ข้อ  7.  ค่าไฟฟ้า น้ำประปา
ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าไฟฟ้า  และค่าน้ำประปาเอง
ข้อ  8.  การบำรุงรักษาทรัพย์ที่เช่า
ผู้เช่าจะต้องดูแลรักษาและซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าให้อยู่ในสภาพปกติด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเอง  เว้นแต่จะเป็นการซ่อมแซมใหญ่ทรัพย์ที่เช่า
ข้อ  9.  การดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่า
ผู้เช่าจะดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่าไม่ได้   เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับความยินดีจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
ในกรณีที่ผู้เช่าดัดแปลงต่อเติมทรัพย์ที่เช่าไม่ว่าจะโดยได้รับความยินดีจากผู้ให้เช่าหรือไม่ก็ตามให้การดัดแปลงต่อเติมสั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที   ไม่ว่าส่วนที่ดัดแปลงต่อเติมสั้นจะเป็นส่วนควบกับทรัพย์ที่เช่าหรือไม่ก็ตาม   อย่างไรก็ตามหากผู้ให้เช่าประสงค์จะให้ผู้เช่ารื้อถอนผู้เช่าจะต้องรื้อถอนและจัดการซ่อมแซมทรัพย์ที่เช่าให้อยู่ในสภาพปกติทุกประการ  โดยผู้เช่าต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ข้อ  10.  การโอนสิทธิการเช่า การเช่าช่วง
ผู้เช่าจะโอนสิทธิการเช่า หรือนำทรัพย์ที่เช่าไปให้บุคคลอื่นเช่าช่วงไม่ว่าจะทั้งหมดหรือแต่บางส่วนไม่ได้   เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
ข้อ  11.  การตรวจตราทรัพย์สินที่เช่า
ผู้เช่าจะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ให้เช่า  หรือตัวแทนของผู้ให้เช่า  เข้าตรวจตราทรัพย์ที่เช่าได้ตลอดเวลาโดยไม่จำต้องบอกกล่าวก่อน
ข้อ  12.   ข้อยกเว้นความรับผิดชอบของผู้ให้เช่า
(1)    ผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดในความสูญหายหรือเสียหายที่เกิดขึ้นในตัวสินค้า    หรือทรัพย์สินในทรัพย์ที่เช่า  ไม่ว่าความสูญหายหรือเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นจากสาเหตุใดก็ตาม
(2)    ผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบต่อผู้เช่า  บริวารของผู้เช่า  ลูกจ้างของผู้เช่าหรือบุคคลอื่น ๆ   สำหรับอุบัติเหตุหรือความเสียหายใด  ๆ   ที่เกิดขึ้นใน  หรือเกิดขึ้นจากทรัพย์ที่เช่า
ข้อ  13.  กรณีทรัพย์ที่เช่าพินาศลง
ในกรณีที่ทรัพย์ที่เช่าพินาศลงโดยสิ้นเชิงหรือเป็นส่วนใหญ่เพราะอัคคีภัย  หรือวินาศภัยอื่นใด  ก็ให้การเช่าตามสัญญานี้สิ้นสุดลง  แม้ว่าจะยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการเช่าที่ระบุไว้ในสัญญาก็ตาม
ข้อ  14.  กรณีผู้เช่าถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ผู้เช่าหรือมีคำสั่งให้ผู้เช่าเป็นบุคคลล้มละลายก็ให้การเช่าตามสัญญานี้ก็สิ้นสุดลง แม้ว่าจะยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการเช่าตามที่ระบุไว้ในสัญญานี้ก็ตาม
ข้อ  15.  กรณีผิดสัญญา
ในกรณีผู้เช่าผิดสัญญาไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใดหรือหลายข้อรวมกัน   ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญาภายในกำหนดเวลาที่ผู้ให้เช่าเห็นสมควร   หรือเรียกค่าเสียหาย   หรือบอกเลิกสัญญาโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน  และให้ถือว่าสัญญาเลิกกันทันที  หรือจะใช้สิทธิดังกล่าวรวมกันก็ได้
ข้อ  16.  กรณีสัญญาเลิกกัน
ในกรณีที่สัญญาเลิกกัน  ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินออกจากทรัพย์ที่เช่าให้หมด  และส่งคืนทรัพย์ที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพเรียบร้อย   ภายในเวลา………….วัน นับจากวันที่สัญญาเลิกกัน โดยให้ผู้เช่าชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ให้เช่านับจากวันสัญญาเลิกกันถึงวันส่งคืนทรัพย์ที่เช่าด้วยในอัตราวันละ ………..บาท (…………………………….)
หากครบกำหนดระยะเวลาตามวรรคแรกแล้ว ผู้เช่ายังมาได้ส่งคืนทรัพย์ที่เช่าหรือยังไม่ได้ย้ายทรัพย์ที่เช่าจนหมด   ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองสถานที่เช่าได้ทันที และให้ทรัพย์สินต่าง ๆ  ที่อยู่ในทรัพย์ที่เช่าตกเป็นของผู้ให้เช่าทันที  โดยผู้ให้เช่าไม่จำต้องจ่ายเงินตอบแทนใด ๆ  สำหรับทรัพย์สินดังกล่าวนั้น
สัญญานี้ทำขึ้นเป็น……………..ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความดีแล้ว เห็นว่าสัญญาถูกต้อง   จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน

ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า   ลงชื่อ…………………………………….ผู้เช่า
        (……………………………………)                      (……………………………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน    ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (……………………………………)                       (……………………………………)

สัญญาเช่าแบบทั่วไป

สัญญาเช่าแบบทั่วไป

    เขียนที่……………………………….……………
    วันที่…………เดือน…………………..พ.ศ.………………

หนังสือสัญญาเช่าฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง………………………………………อายุ…………...ปี อยู่บ้านเลขที่……………………..ตรอก/ซอย……………………….ถนน…………………………………..ตำบล/แขวง…………………อำเภอ/เขต………………………จังหวัด…………………….………………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง   กับ
……………………………………………อายุ………………ปี อยู่บ้านเลขที่………………ตรอก/ซอย………………………..ถนน………………………….ตำบล/แขวง………………………………อำเภอ/เขต……………………………..จังหวัด…………………….……………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า”   อีกฝ่ายหนึ่ง  
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้เช่าและเช่า…………………………………………………………โดยทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้นเป็นกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองของผู้ให้เช่า ซึ่งต่อไปสัญญานี้เรียกว่า “ทรัพย์สิน”
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าทรัพย์สินดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลา                      ทั้งสิ้น……… ปี…………….เดือน โดยผู้เช่าตกลงยินยอมให้ค่าเช่าในอัตราเดือนละ…………………บาท (……………………………….) ทั้งนี้ ผู้เช่ารับว่าจะเป็นฝ่ายนำค่าเช่าทรัพย์สินจำนวนดังกล่าวไปชำระให้แก่ผู้ให้เช่า ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่าภายในวันที่………….ของทุกเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือน………………… เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา
ข้อ 2.  เพื่อเป็นการตอบแทนแก่ผู้ให้เช่าที่ผู้ให้เช่าตกลงยินยอมให้ผู้เช่าได้ทรัพย์สินตามสัญญานี้ผู้เช่าตกลงให้เงินเพื่อเป็นการตอบแทนแก่ผู้ให้เช่าต่างหากจากค่าเช่าเป็นจำนวนเงิน……………………บาท (………………………………….) และให้ถือว่าเป็นการให้เปล่าหรือให้โดยเสน่หาไม่มีข้อผูกพันใดๆ ที่จะให้ผู้ให้เช่าคืนให้แก่ผู้เช่าไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ผู้เช่ารับว่าจะให้ค่าตอบแทนดังกล่าวโดย
•      ชำระเป็นเงินสดครั้งเดียว
•      ชำระเป็นเงินสด  โดยการผ่อนชำระเป็นระยะเวลา…………….งวดเดือน เริ่มตั้งแต่เดือน…………………………ถึงเดือน……………………….ชำระก่อนวันที่……………..ของเดือนนั้น

ข้อ 3.  กำหนดระยะเวลาเช่าให้เริ่มนับตั้งแต่วันจดทะเบียนการเช่าตามกฎหมายเป็นต้นไป หากยังไม่ปรากฏมีการจดทะเบียนสิทธิตามกฎหมายแล้ว ผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องทำการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าและผู้เช่าไม่จำต้องชำระค่าเช่า
ข้อ 4.  ผู้เช่าจะต้องดูแลรักษาทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญานี้ให้อยู่ในสภาพที่ใช้สอยได้และยินยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าเข้าตรวจสอบดูแลทรัพย์สินได้เสมอ
ข้อ 5.  ในการเช่าทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าจะให้เพื่อกิจการ…………………………………เท่านั้น
ข้อ 6.  ผู้เช่าให้สัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง ไม่ว่าจะเป็นไปโดยนิตินัยหรือพฤตินัยก็ตาม
ข้อ 7.  ผู้เช่าจะจัดการดูแลทรัพย์สินที่เช่าและบริเวณของทรัพย์สินที่เช่าไม่ให้มีสิ่งโสโครก หรือกลิ่นเหม็นอันเป็นที่น่ารังเกียจและเป็นการรบกวนบุคคลอื่น
ข้อ 8.  ค่าธรรมเนียม ค่าภาษี ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้แก่ทางราชการ………………………… จะเป็นผู้รับภาระเองทั้งสิ้น
ข้อ 9.  หากคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดนัดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง ให้ถือว่าสัญญาเช่าเป็นอันสิ้นสุดลงโดยมิต้องบอกกล่าว และคู่สัญญาฝ่ายที่ผิดสัญญาต้องรับผิดชอบชดให้ค่าเสียหายอันเกินจากการผิดนัดผิดสัญญานั้นด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ให้เช่าผิดสัญญา ผู้เช่ามีอำนาจฟ้องร้องบังคับให้ผู้ให้เช่าปฏิบัติตามสัญญาและเรียกร้องค่าเสียหายได้
 
สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจสัญญาดีแล้วจึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเป็นสำคัญ  และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า     ลงชื่อ………………………………………ผู้เช่า
        (…………..…………………………)                 (………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน      ลงชื่อ………………………………………พยาน
        (………………………………………)             (………………………………………)

   

สัญญาเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร

สัญญาเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร

สัญญาเลขที่…………………………………………

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น   ณ   …………………………………………………………………………………แขวง………………………………..…เขต……………………………กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่…..….เดือน…………………พ.ศ. ……………………ระหว่าง.…………………………………………..…….
โดย…………………………………………………………ตำแหน่ง…………………………………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง กับ ………………………………………………………
ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล  ณ  …………………………………………………….. สำนักงานใหญ่อยู่ 
เลขที่………………………. ถนน ……………………แขวง……………เขต…………………………...กรุงเทพมหานคร   โทรศัพท์…………………………………….โดย……………………………………
ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคลปรกกฎตามหนังสือรับรองของสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท…….
…………………………..…ลงวันที่………………ตามและหนังสือมอบอำนาจลงวันที่ ………………..เดือน……………………………พ.ศ. …………แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ  1.   ผู้เช่าตกลงเช่าและผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ………………………… รุ่น …………………………หมายเลขเครื่อง………………………จำนวน…………..เครื่อง ราคาเครื่อง
ละ…………….บาท ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ……………………………………………รายละเอียดปรากฏตามแบบรูปและคุณสมบัติแนบท้ายสัญญาซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้
สัญญาเช่านี้มีกำหนดเวลา………………ปี………………..….เดือน นับตั้งแต่วันที่…………….
เดือน…………………….พ.ศ.  ……………..ถึงวันที่…………เดือน………………….พ.ศ. …………..
ข้อ  2.  ผู้เช่าตกลงจะชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือนโดยคิดคำนวณจากจำนวนครั้งของการถ่ายเอกสารเฉพาะฉบับที่ใช้งานได้เท่านั้นฉบับละ ……………….บาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้ว โดยจะชำระให้ภายในวันที่ …..ของทุกเดือน   สำหรับค่าเช่าในเดือนกันยายน
……………….ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ ผู้เช่าจะหยุดการใช้เครื่องถ่ายภายในวันที่………..
……………………และผู้ให้เช่าจะต้องยื่นหลักฐานการเรียกเก็บเงินให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันที่……… ………… …………………ถ้าผู้ให้เช่าไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าวถือว่าผู้ให้เช่าสละสิทธิ์ไม่ขอรับค่าเช่าในงวดสุดท้ายดังกล่าว
การคำนวณค่าเช่าตามวรรคแรก   คู่สัญญาตกลงให้คิดตามจำนวนเอกสารที่ถ่ายออกมาแล้วสมบูรณ์ใช้ได้เท่านั้น   โดยหักจำนวนเอกสารที่ถ่ายแล้วเสียออกจากยอกถ่ายเอกสารทั้งหมด
ผู้เช่าหรือเจ้าหน้าที่ของผู้เช่าต้องเก็บเอกสารที่ถ่ายแล้วเสียคืนให้กับผู้ให้เช่าเพื่อเป็นหลักฐานในการคำนวณค่าเช่าดังกล่าในวรรคสอง
การวินิจฉัยว่าเอกสารฉบับใดเป็นเอกสารที่ถ่ายแล้วเสีย  ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้เช่าหรือเจ้าหน้าที่ของผู้เช่าแต่เพียงฝ่ายเดียวเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยและถือเป็นยุติ   ผู้ให้เช่าจะโต้แย้งใด ๆ  มิได้
ข้อ  3.  ผู้ให้เช่ารับรองว่าเครื่องถ่ายเอกสารที่ให้เช่าตามสัญญานี้มีคุณสมบัติถูกต้องตรงกับที่กำหนดไว้ตามแบบรูปและรายละเอียดคุณสมบัติของเครื่องท้ายสัญญานี้
ข้อ  4.  ผู้ให้เช่าต้องทำการขนส่งและติดตั้งเครื่องถ่ายเอกสารที่ให้เช่าตามสัญญานี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 1 แห่งสัญญานี้   ในลักษณะพร้อมที่จะใช้งานได้ตามที่กำหนด    ณ …………………………….และส่งมอบให้แก่คณะกรรมการตรวจรับขอผู้เช่าภายใน……………..
วันนับแต่วันที่คู่สัญญาได้ลงนามในสัญญา   ซึ่งผู้ให้เช่าเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ประกอบ  พร้อมทั้งเครื่องมือจำเป็นในการติดตั้ง  โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
    ทั้งนี้  ผู้ให้เช่าต้องแจ้งเวลาติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมที่จะใช้งานและส่งมอบเครื่องได้เป็นหนังสือต่อผู้เช่า  ณ  ……..………………………ในเวลาราชการก่อนวันกำหนดส่งมอบตามวรรคหนึ่งไม่น้อยกว่า ………………วันทำการ
ในการส่งมอบตามวรรคหนึ่ง  ผู้ให้เช่าต้องส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพและแนะนำวิธีการใช้เครื่องให้คณะกรรมการตรวจตับได้พิจารณาตามรายละเอียดคุณสมบัติที่ระบุไว้ใน      ข้อ  1 และสำเนาที่ถ่ายจะต้องมีความชัดเจนไม่มีรอยหมึกเปื้อนตามส่วนต่าง ๆ 
ข้อ  5.  เมื่อครบกำหนดติตั้งและส่งมอบเครื่องถ่ายเอกสารตามสัญญาข้อ  4  แล้ว ถ้าผู้ให้เช่าไม่ติดตั้งและส่งมอบเครื่องถ่ายเอกสารบางรายการหรือทั้งหมดให้แก่ผู้เช่าภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ  4   หรือส่งมอบเครื่องถ่ายเอกสารไม่ตรงตามสัญญาข้อ  1  หรือมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามข้อ  3  หรือติดตั้งแล้วเสร็จและส่งมอบภายในกำหนดแต่ใช้งานไม่ได้ครบถ้วนตามสัญญาข้อ  4  ผู้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันตามสัญญาข้อ  11  ได้  ในกรณีเช่นว่านี้ผู้ให้เช่าจะต้องนำเครื่องถ่ายเอกสารกลับคืนในภายใน………วัน  นับแต่วันที่ผู้เช่าบอกเลิกสัญญา   โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ข้อ  6.  เมื่อคณะกรรมการตรวจรับที่ผู้เช่าได้ต่างตั้งขึ้น ได้ตรวจรับเครื่องถ่ายเอกสารที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญานี้แล้ว ผู้เช่าจะออกหลักฐานการรับมอบไว้เป็นหนังสือ เพื่อผู้ให้เช่านำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอรับเงินค่าเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร
ข้อ 7. ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ในการบำรุงรักษาเครื่องถ่ายเอกสารที่ให้เช่าอยู่ในสภาพใช้งานได้ดีอยู่เสมอด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ให้เช่า โดยต้องจัดหาช่างผู้มีความรู้ความชำนาญและมีฝีมือดีมาตรวจสอบบำรุงรักษาและซ่อมแซมแก้ไขเครื่องถ่ายเอกสารที่ให้เช่าตลอดอายุสัญญาเช่านี้อย่างน้อยเดือนละ………..ครั้ง โดยให้มีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า …………..วัน
สิ่งของที่ใช้สิ้นเปลืองทุกชนิด   ยกเว้นกระดาษสำหรับถ่ายเอกสาร  ผู้ให้เช่าจะเป็นผู้จัดส่งให้โดยไม่คิดมูลค่า  โดยที่ผู้ให้เช่าจะจัดให้มีไว้ในครอบครอบครองของผู้เช่าให้เพียงพออยู่เสมอ   อุปกรณ์สิ้นเปลืองดังกล่าว   เช่น ลูกโม่ถ่ายภาพ, ผงหมึก, ผงประจุภาพ, วัสดุที่ใช้ทำความสะอาดถึงกรอง, แปรง, น้ำมันหล่อลื่น และอุปกรณ์อื่น ๆ   ที่จำเป็นเพื่อให้ถ่ายเอกสารใช้งานได้ตามปกติตลอดเวลา
ข้อ  8.  ผู้ให้เช่ารับเป็นหน้าที่ในการฝึกวิธีใช้เครื่องถ่ายเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ของผู้เช่าและผู้เช่าตกลงจะหาพนักงานที่เหมาะสมเข้ารับการฝึก และผู้ให้เช่ายินยอมรับเป็นหน้าที่ในการฝึกวิธีการใช้เครื่องถ่ายเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ของผู้เช่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง   หากเจ้าหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไม่เคยได้รับการฝึกมาก่อน
ค่าใช้จ่ายในการฝึกวิธีการใช้เครื่องถ่ายเอกสารตามวรรคหนึ่งเป็นของผู้ให้เช่า
ข้อ  9.  ในกรณีเครื่องชำรุดบกพร่องใช้งานไม่ได้ตามปกติ   ผู้ให้เช่าจะต้องจัดให้ช่างที่มีความชำนาญและฝีมือดีมาจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีตามปกติ   เมื่อได้รับแจ้งจากผู้เช่าหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้เช่า และให้แล้วเสร็จใช้งานได้ดีดังเดิมอย่างช้าต้องไม่เกิน…………ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้รับแจ้งจากผู้เช่า
ถ้าผู้ให้เช่าไม่สามารถปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าปรับเป็นรายชั่วโมงในอัตรา    ชั่วโมงละ………………บาท โดยยินยอมให้ผู้เช่าหักค่าปรับดังกล่าวออกจากค่าเช่าตามข้อ 2 หรือเรียกเอาจากหลักประกันตามข้อ 11 ก็ได้   สำหรับจำนวนเวลาที่ใช้การคำนวณค่าปรับจะเริ่มนับหลังจากครบกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จตามวรรคหนึ่งแล้ว   จนถึงเวลาที่ผู้ให้เช่าดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จใช้งานได้ดีตามปกติ
ข้อ  10.   ในกรณีที่เครื่องขัดข้องใช้งานไม่ได้ตามปกติ    และผู้เช่าเห็นว่าไม่อาจซ่อมแซมแก้ไขให้ดีและอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เช่า  ให้ผู้เช่าแจ้งให้ผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรให้จัดหาเครื่องที่มีคุณภาพและความสามารถในการใช้งานไม่ต่ำกว่าของเดิมมาให้ผู้เช่าใช้แทนภายใน…………วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับจ้างจากผู้เช่า  หากผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ ………..ของราคาเครื่องถ่ายเอกสารที่เช่าตามสัญญาข้อ  1  นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าวจนกว่าผู้ให้เช่าจะดำเนินการจัดหาเครื่องถ่ายเอกสารมาให้ผู้เช่าใช้งานแทนแล้วเสร็จหรือจนกว่าผู้เช่าเห็นว่าผู้ให้เช่าอาจจัดหาเครื่องถ่ายเอกสารอื่นแทนได้และบอกเลิกสัญญา  ทั้งนี้   ผู้เช่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่าในระหว่างเวลาที่ผู้เช่าไม่สามารถใช้เครื่องถ่ายเอกสารตามสัญญานี้
ข้อ  11.  ในวันทำสัญญา   ผู้ให้เช่าได้นำหลักทรัพย์เช่า…………………………..….เป็นจำนวนเงิน……………………บาท มามอบไว้แก่ผู้เช่าเพื่อการประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้
หลักประกันที่ผู้ให้เช่านำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง  ผู้เช่าจะคืนให้เมื่อผู้ให้เช่าพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญานี้แล้ว
ข้อ  12.  ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรือสูญหายหรือบุบสลายเมื่อเกิดภัยพิบัติหรืออัคคีภัย หรือการโจรกรรมเครื่องถ่ายเอกสารตามสัญญานี้
ข้อ  13.  ผู้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบต่อการสูญหายหรือความเสียหายใด ๆ   ที่เกิดขึ้นแก่เครื่องถ่ายเอกสารตามสัญญานี้ อันไม่ใช่ความผิดของผู้เช่าตลอดระยะเวลาที่เครื่องถ่ายเอกสารอยู่ในความครอบครอง
ข้อ  14.  ในระหว่างอายุสัญญาเช่า ห้ามผู้ให้เช่าโอนสิทธิหน้าที่ตามสัญญาหรือกรรมสิทธิ์ในเครื่องถ่ายเอกสารที่ให้เช่าแก่บุคคลอื่น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้เช่าก่อน
ข้อ  15.  ถ้าผู้ให้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใด   ผู้เช่ามีสิทธิจะบอกเลิกสัญญาได้ โดยผู้เช่าจะแจ้งการบรอกเลิกสัญญาให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 7 วัน
ข้อ  16.  เมื่อสัญญษสิ้นสุดลงไม่ว่าจะเป็นการบอกเลิกสัญญาหรือครบกำหนดเวลาตามสัญญา ผู้ให้เช่าต้องนำเครื่องถ่ายเอกสารที่เช่ากลับคืนไปภายใน…………วัน โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ข้อ  17.  ผู้เช่ามีสิทธิรับรองหลักประกันตามสัญญาข้อ 11 เมื่อผู้ให้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใด และผู้เช่าใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากนั้นหากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เช่าเกินกว่าจำนวนหลักประกันตามสัญญาข้อ 11 แล้วผู้ให้เช่ายอมรับผิดและยินยอมชดใช้ค่าเสียหายนั้นให้แก่ผู้เช่าภายใน……….วัน   นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้เช่า
สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ   มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้ว   จึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา  (ถ้ามี)   ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน และคู่สัญญายึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ……………………………………ผู้เช่า       ลงชื่อ…………………………………….ผู้ให้เช่า
        (……………………………………)                      (……………………………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน    ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (……………………………………)                       (……………………………………)

ต้นฉบับได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนตามประมวลรัษฎากรแล้ว  เป็นเงิน…………………บาท


สัญญาจ้างว่าความ

สัญญาจ้างว่าความ

วันที่…………เดือน………………………พ.ศ.………….

    สัญญานี้ทำขึ้นระหว่างธนาคาร ………………………จำกัด โดย ……….…………………….
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า  "ธนาคาร” ฝ่ายหนึ่ง กับ ………..………………เลขที่…………...………ถนน…………………….. ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ทนาย” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสอง ฝ่ายตกลงกันทำสัญญากันดังต่อไปนี้
ข้อ  1.  ธนาคารตกลงมอบหมายให้ทนายเป็นผู้ดำเนินคดี และทนายตกลงรับดำเนินคดีต่าง ๆ ที่ธนาคารจะส่งมอบให้ดำเนินการตามที่ธนาคารจะได้มอบหมายในแต่ละครั้งละเรื่องต่อไป ซึ่งในการมอบหมายแต่ละครั้งจะได้มีการส่งมอบหลักฐาน และทำการรับการมอบเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งไป
ข้อ  2.  ทนายความตกลงรับค่าว่าความจากธนาคารตามเรื่องที่ได้มอบหมายจากธนาคารในอัตราดังต่อไปนี้
2.1 ในกรณีที่ทนายมีหนังสือทวงถามถึงลูกหนี้ที่ธนาคารมอบหมายให้ดำเนินการและธนาคารได้รับชำระหนี้โดยทนายไม่ต้องดำเนินคดี ธนาคารตกลงชำระค่าว่าความให้แก่ทนายตามอัตราดังนี้
2.1.1 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับชำระไม่เกิน………………………บาท แต่ไม่ต่ำกว่า ………………………….บาท
2.1.2 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับชำระไม่เกิน………………………บาท แต่ไม่ต่ำกว่า ………………………….บาท
2.1.3 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับชำระไม่เกิน………………………บาทขึ้นไป
        2.2 ในกรณีที่ทนายความต้องดำเนินคดีชั้นศาลถึงที่สุด และธนาคารเป็นฝ่ายชนะคดี   หรือประนีประนอมยอมความ ธนาคารตกลงชำระค่าว่าความที่ธนาคารมอบหมายให้แก่ทนายเมื่อคดีถึงที่สุด ตามจำนวนในวันที่ศาลพิพากษาโดยไม่รวมดอกเบี้ยในอนาคต ในอัตราดังต่อไปนี้
2.2.1 จ่ายเป็นค่าว่าความร้อยละ ………………………ของจำนวนเงินไม่เกิน
บาท แต่ไม่ต่ำกว่า ………………………บาท 
2.2.2 จ่ายเป็นค่าว่าความร้อยละ ……………………ของจำนวนเงินเกินกว่า
บาท แต่ไม่เกิด ………………………บาท 


2.2.3 จ่ายเป็นค่าว่าความร้อยละ ………………………ของจำนวนเงินที่เกิน
กว่า…………………………………….บาท   
        ทั้งนี้ทนายมีหน้าที่ต้องดำเนินการบังคับคดีดังกล่าวต่อไปตามหน้าที่
    2.3 เมื่อคดีดังกล่าวใน 2.2 ธนาคารได้รับการชำระหนี้ ธนาคารตกลงชำระค่าว่าความให้แก่ทนายเพิ่มเติมจากที่ได้รับแล้วดังกล่าวใน 2.2 เมื่อธนาคารได้รับชำระหนี้ในอัตราต่อไปนี้
2.3.1 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับไม่เกิน………………………………บาท แต่ไม่เกิน ………………………….บาท
2.3.2 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับส่วนที่เกินกว่า………………………บาท แต่ไม่เกิน ………………………….บาท
2.3.3 จ่ายเป็นค่าว่าความในอัตราร้อยละ …………………….……ของเงินที่
ได้รับส่วนที่เกินกว่า………………………บาท
    ข้อ  3.  ธนาคารเป็นผู้ชำระค่าฤชากร ค่าธรรมเนียมศาล และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ   เกี่ยวกับการดำเนินคดีแต่ละเรื่องแก่ทนายตามระเบียบหรือกฎหมายและตามความเป็นจริง   ซึ่งทนายจะต้องแสดงรายการหักจ่ายให้แก่ธนาคารทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทนายได้เบิกเงินดังกล่าวจากธนาคาร
    ข้อ  4.  ทนายจะต้องปฏิบัติดังนี้
        4.1 ทนายไม่มีอำนาจที่จะให้เวลาผัดผ่อนชำระหนี้เกิน 2 เดือนแก่ลูกหนี้เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนทุกเรื่อง
        4.2 การที่จะลดหนี้ ถอนฟ้องคดี   ประนีประนอมยอมความ   โดยที่ธนาคารมีทางเสียเปรียบ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
        4.3 ถ้ามีการทิ้งคดี ปล่อยให้คดีขาดอายุความ หรือดำเนินการไปโดยผิดพลาด   ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหาย   จะต้องคืนเงินค่าว่าความทั้งหมด และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายแก่ธนาคารด้วย
        4.4 เมื่อคดีถึงที่สุด ทนายจะต้องคัดสำเนาคำพิพากษาหรือสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยให้ศาลรับรองสำเนาถูกต้องมอบให้ธนาคารภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุดทุกเรื่อง
        4.5 ในกรณีที่ลูกหนี้วางเงินต่อศาลหรือมีการชำระหนี้ให้แก่ทนาย ทนายจะต้องขอรับเงินจากศาลโดยเร็ว หรือขอคืนค่าธรรมเนียมจากศาลในกรณีจำยอม และส่งมอบเงินแก่ธนาคารทันทีที่ได้รับจากศาล หรือได้รับชำระหนี้
        4.6 หนี้รายใดซึ่งทนายฟ้องร้องไปแล้ว แต่ไม่เป็นผลต่อธนาคาร โดยศาลยกฟ้องธนาคารจะไม่ยอมจ่ายค่าว่าความแก่ทนายสำหรับเรื่องนั้น
        4.7  ทนายต้องส่งสำเนาคำฟ้องและคำให้การ  และรายงานคดีให้ธนาคารทราบแต่ละเรื่องอย่างน้อยทุก  ๆ  2  เดือน  ว่าได้ดำเนินการไปอย่างไร  ผลเป็นอย่างไร  และจะต้องจัดการอย่างไรต่อไป  หากทนายละเว้นไม่รายงานให้ทราบตามกำหนด  ธนาคารจะหักเงินค่าว่าความที่ทนายจะได้รับในเรื่องนั้นครั้งละ …………………..บาททุกครั้งที่ไม่รายงานตามกำหนดทั้งนี้เพื่อให้ธนาคารได้มีโอกาสรู้ผลงาน และเตรียมงานที่จะเสนอหลักฐานเป็นพยานศาลต่อไป
        4.8 ทนายจะต้องไม่นำคดีตาที่ได้รับมอบหมายตามสัญญานี้ให้บุคคลอื่นจัดการก่อนได้รับอนุญาตจากธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษร
        4.9 ธนาคารมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ หรือบอกเลิกเรื่องที่มอบหมายเมื่อไรก็ได้ตามที่ธนาคารเห็นสมควร
        4.10 เมื่อเสร็จคดีเรื่องใด   ให้ทนายจัดการคืนสำนวนดังกล่าวพร้อมทั้งเอกสารที่ดำเนินคดีทั้งหมดคืนแก่ธนาคาร   แล้วจึงจะขอรับค่าว่าความครั้งสุดท้ายได้
    ข้อ  5.  ทนายความมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้เมื่อไรก็ได้ แต่ทนายมีหน้าที่รับผิดชอบและดำเนินคดีที่ได้รับมอบหมายจากธนาคารที่ได้ดำเนินไปแล้วนั้นให้แล้วเสร็จ
    สัญญานี้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความตรงกัน  คู่สัญญาได้อ่านและเข้าใจข้อความตามสัญญานี้แล้ว  จึงได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าพยานไว้เป็นสำคัญ

ลงชื่อ………………………………………..ธนาคาร
        (………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………..ธนาคาร
        (………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………..ทนาย
        (………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………..พยาน
        (………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………..พยาน
        (………………………………………)




พินัยกรรมแบบธรรมดา

พินัยกรรมแบบธรรมดา
(กรณีมีการตั้งผู้จัดการมรดก)

                            ทำที่.....................................................................
                        วันที่...................เดือน..........................พ.ศ......................
    ข้าพเจ้า...................................................................................อายุ...............ปี อยู่บ้านเลขที่..................
ตรอก/ซอย......................................ถนน..................................ตำบล/แขวง.......................................................
อำเภอ/เขต............................................จังหวัด..............................................ขอทำพินัยกรรมไว้ว่าเมื่อข้าพเจ้า
ถึงแก่ความตายแล้ว ให้ทรัพย์สินของข้าพเจ้าทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในอนาคตนั้นตกได้
แก่บุคคลดังต่อไปนี้ คือ
(1)    ....................................................................................
(2)    ....................................................................................
(3)    ....................................................................................
....................................................................................
....................................................................................
และขอตั้งให้....................................................................................เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า เพื่อจัดการ
แบ่งปันทรัพย์สินอันเป็นมรดกให้เป็นไปตามเจตนาของข้าพเจ้า
    เพื่อเป็นหลักฐานข้าพเจ้าได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ

                    ลงชื่อ...................................................ผู้ทำพินัยกรรม
                              (...................................................)

    ข้าพเจ้าผู้มีรายนามข้างท้ายนี้ ขอรับรองว่า.....................................................ผู้ทำพินัยกรรม
ได้ทำพินัยกรรมต่อหน้าข้าพเจ้า และได้กระทำลงในขณะที่มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ทุกประการ ข้าพเจ้าจึง
ลงลายมือชื่อไว้เป็นพยานในพินัยกรรม
               
                    ลงชื่อ.....................................................พยาน
                             (.....................................................)

                    ลงชื่อ.....................................................พยานและผู้เขียน
                             (.....................................................)
                   

พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ

พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ
                           
ทำที่.................................................................
                        วันที.........................เดือน......................พ.ศ.................

    ข้าพเจ้า...............................................................................อายุ...................ปี อยู่บ้านเลขที่..............
ตรอก/ซอย....................................ถนน....................................ตำบล/แขวง....................................................
อำเภอ/เขต......................................จังหวัด...................................ขอทำพินัยกรรมไว้ว่าเมื่อข้าพเจ้าตายลงแล้ว
ให้แบ่งทรัพย์สินของข้าพเจ้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
(1)    ..........................................................................
(2)    ..........................................................................
(3)    ...........................................................................
(4)    ให้..................................................................เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า (ถ้ามี) เพื่อจัดการ
แบ่งปันทรัพย์สินมรดกให้เป็นไปตามเจตนาของข้าพเจ้าทุกประการ
    พินัยกรรมฉบับนี้ ข้าพเจ้าได้เขียนด้วยลายมือชื่อของข้าพเจ้าเองทั้งฉบับ และได้ทำขึ้นในขณะที่มี
สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ทุกประการ ข้าพเจ้าจึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ

                    ลงชื่อ...............................................................ผู้ทำพินัยกรรม
   

พินัยกรรม

พินัยกรรม
    พินัยกรรมฉบับนี้ทำที่บ้านเลขที่............................ซอย........................ถนน.......................................
แขวง..................................เขต................................................กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่.................................
    ข้าพเจ้า......................................................................ได้คำนึงถึงสังขารขอบตนเองแล้ว ก็เห็นว่ามีอายุ
มากแล้ว จึงถือโอกาสที่ยังมีสติสัมปชัญญะดีอยู่นี้ สั่งการเกี่ยวกับทรัพย์สินเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมแล้ว
ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอทำพินัยกรรมสั่งการไว้ดังต่อไปนี้ :
    ข้อ 1. ข้าพเจ้าขอยกบ้านเลขที่........................... ซอย........................แขวง..........................................
เขต........................................ กรุงเทพมหานคร ซึ่งปลูกอยู่ทีดินโฉนดเลขที่ ...........................  เล่ม ................
หน้า......................... เลขทีดิน........................หน้าสำรวจ..........................ตำบล ............................................
อำเภอ...................................... กรุงเทพมหานคร อันเป็นเรือนพักหลังใหญ่ พร้อมทีดินเฉพาะส่วนที่เป็น
ที่ตั้งของบ้านดั้งกล่าว ให้แก่........................................................แต่เพียงผู้เดียว
    ข้อ 2. ข้าพเจ้าขอยกบ้านอันเป็นเรือนพักหลังเล็ก ที่ปลูกอยู่บนทีดิน โฉนดเลขที่.................................
เล่ม.......................หน้า......................เลขทีดิน.....................หน้าสำรวจ.....................ตำบล..............................
อำเภอ.............................กรุงเทพมหานคร พร้อมที่ดินเฉพาะส่วนที่เป็นที่ตั้งของบ้านเรือนพักหลังเล็ก
ดังกล่าวให้.....................................................................แต่เพียงผู้เดียว
    ข้อ 3. ข้าพเจ้าขอยกมีดินโฉนดเลขที่..................เล่ม...................หน้า.......................เลขทีดิน.............
หน้าสำรวจ.......................ตำบล........................................อำเภอ.......................................กรุงเทพมหานคร
ส่วนทีเหลือจากที่ยกให้แก่บุคคลตามที่กล่าวไว้ในข้อ 1. และข้อ 2. ข้างต้นให้แก่...........................................
...........................และ..............................................คนละส่วนเท่า ๆ กัน
    ข้อ 4. ข้าพเจ้าขอยกจักรเย็บผ้าไฟฟ้า ยี่ห้อ..............................................................ตลอดจนเสื้อผ้า
และเครื่องนุ่งห่มของข้าพเจ้าทั้งหมดให้แก่...............................................................................
    ข้อ 5. ทรัพย์สินต่าง ๆ นอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 1. ถึงข้อ 4. ข้างต้นแล้ว ข้าพเจ้าขอยกให้แก่
.....................................................แต่เพียงผู้เดียว แต่ถ้าหาก..........................................................................
เห็นควรแบ่งทรัพย์สินที่ตนได้รับมาตามข้อนี้ให้แก่พี่น้องคนใดแล้วก็ให้เป็นไปตามที่...............................
.......................................................จะเห็นสมควรต่อไปด้วย
    ข้อ 6. ข้าพเจ้าขอแต่งตั้งให้............................................................เป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
ของข้าพเจ้า
    อนึ่ง เนื่องจากข้าพเจ้าเคยทำพินัยกรรมไว้แล้วรวม 2 ครั้ง ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอยกเลิกพินัยกรรมที่ข้าพเจ้าเคยทำไว้ก่อนหน้านี้เสียทั้งสิ้น




    พินัยกรรมนี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับพิมพ์ครั้งเดยวมีข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกัน ข้าพจ้าได้ทราบข้อความทั้งหมดแล้วเห็นว่าตรงตามเจตนาของข้าพเจ้าทุกข้อทุกประการ ดังนั้น จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าผู้นั่งเป็นพยาน และให้.................................................................................ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมนี้
เป็นผู้รักษาไว้หนึ่งฉบับ ให้...........................................................................เป็นผู้เก็บรักษาอีกหนึ่งฉบับ

                    ลงชื่อ............................................ผู้ทำพินัยกรรม

    ข้าพเจ้าผู้เป็นพยานในพินัยกรรมนี้ ขอรับรองและยืนยันว่าได้อ่านพินัยกรรมนี้และสอบถามเจตนา
ของผู้ทำพินัยกรรมนี้แล้ว ผู้ทำพินัยกรรมยืนยันว่า พินัยกรรมนี้ถูกต้องตรงกับเจตนาแท้จริงของผู้ทำพินัย
และลงลายมือชื่อต่อหน้าข้าพเจ้าผู้เป็นพยาน ข้าพเจ้าจึงได้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยาน ไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมกัน

                    ลงชื่อ..............................................พยาน
                    ลงชื่อ..............................................พยาน

    ข้าพเจ้า..........................................................ผู้พิมพ์พินัยกรรมฉบับนี้ ขอยืนยันว่าพินัยกรรมนี้
ได้พิมพ์ขึ้นครั้งเดียวจำนวนสองฉบับ ข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกัน

                    ลงชื่อ..............................................ผู้พิมพ์

หนังสือข้อตกลงหย่า

หนังสือข้อตกลงหย่า
                                                                                              เขียนที่……………………………………….
                                                                                    วันที่……….เดือน…………………..พ.ศ………….
          ข้าพเจ้า……………………………………………………………………………………ทั้งสองฝ่าย
ได้เป็นสามี-ภริยากันโดยถูกต้องตามกฎหมาย จดทะเบียนสมรส ณ……………………………………….
จังหวัด…………………………….เลขทะเบียนที่……………………….ลงวันที่………………………..
           บัดนี้ทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลบางประการไม่สามารถอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยากันได้อีกต่อไป จึงขอทำ
หนังสือการหย่าขาดจากกันเป็นสามีภริยากัน โดยมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
          ข้อ 1. เรื่องบุตร (ชื่อบุตรพร้อมค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรให้ละเอียด)……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
           ข้อ 2. ค่าเลี้ยงดู (กรณีฝ่ายหญิงเรียกร้องค่าเลี้ยงดู)……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
            ข้อ 3. เรื่องทรัพย์สิน…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
             ข้อ 4. เรื่องอื่น ๆ ……………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
             ข้าพเจ้าทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจในข้อความที่บันทึกไว้ถูกต้อง จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
ลงชื่อ…………………………………..ฝ่ายชาย                  ลงชื่อ………………………………..ฝ่ายหญิง
         (                                                     )                                     (                                                   )

ลงชื่อ…………………………………….พยาน                  ลงชื่อ……………………………….พยาน
         (                                                        )                                  (                                                   )        
         

บันทึกรับรองการเป็นโสด

บันทึกรับรองการเป็นโสด

วันที่………..เดือน………………พ.ศ.………..
    ข้าพเจ้า…………………………………………………อยู่บ้านเลขที่…………..หมู่ที่……………..
ซอย…………………….ถนน…………………………….…..แขวง/ตำบล…………………………………
เขต/อำเภอ…………………………….จังหวัด…………………………..ขอให้ถ้อยคำต่อหน้า……………..
…………………………ตำแหน่ง………………………………… เขต………  ว่าขณะนี้ข้าพเจ้ายังเป็นโสดไม่มีคู่สมรสแต่อย่างใด  จึงขอรับรองและยืนยันมาเพื่อขอทำนิติกรรมด้วยตนเอง  หากเกิดการเสียหายหรือเป็นเท็จเนื่องจากการนี้  ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบเองทั้งสิ้น
    อ่านให้ฟังแล้วรับรองว่าถูกต้อง   จึงลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน

ลงชื่อ………………………………ผู้ให้ถ้อยคำ
ลงชื่อ………………………………ผู้สอบสวน
ลงชื่อ………………………………ผู้จด/อ่าน