วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

สัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

    ทำที่……………………………...
    วันที่………..เดือน……………………พ.ศ…………..
                                  สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง ……………………………………………………….
ตั้งอยู่เลขที่………………ตรอก/ซอย………………..ถนน…………………ตำบล/แขวง…………………...อำเภอ/เขต…………………จังหวัด…………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะขาย” ฝ่ายหนึ่ง กับ……………………ถือบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ เลขที่…………………… ที่อยู่ติดต่อได้เลขที่………………ตรอก/ซอย……………..ถนน…………ตำบล/แขวง……...อำเภอ/เขต………จังหวัด…….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
        ข้อ 1.  ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
    ผู้จะซื้อตกลงที่จะซื้อและผู้จะขายตกลงที่จะขายบ้านเนื้อที่…………………ตารางเมตรบนโฉนดที่แปลงหมายเลขที่…………………..ปรากฏตามแผนผังสังเขปแนบท้ายสัญญาและถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ เป็นอาคารบ้านพักอาศัยแบบ…………………..จำนวน………………หลัง สิ่งปลูกสร้างตลอดจนรายละเอียดอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับของทางราชการทีเกี่ยวข้องหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ หรือมีเหตุจำเป็นทางวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรมหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น
        ข้อ 2.  เงื่อนไขการชำระเงิน
2.1 ผู้จะซื้อตกลงที่จะทำการชำระเงินให้แก่ผู้จะขาย ณ สถานที่ที่ทำการของผู้จะขายหรือสถานที่อื่นใดตามที่ผู้จะขายจะกำหนด
2.2 ในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้จะซื้อได้ชำระเงินค่าทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านเป็นเงินจำนวน………………………..บาท (……………………………….) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวทั้งหมดถือว่าเป็นเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญา ในกรณีที่ผู้จะซื้อปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วนเงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของราคาบ้านที่ผู้จะซื้อต้องชำระทั้งสิ้น
2.3  ผู้จะซื้อต้องชำระเงินค่างวดให้แก่ผู้จะขายอีกเป็นเงินจำนวน………………บาท (………………) ผู้จะซื้อตกลงที่จะทำการชำระเงินจำนวนดังกล่าวเป็นรายเดือน เดือน ละ……………บาท (……………..) เป็นระยะเวลา…………………เดือน ทั้งนี้ผู้จะซื้อตกลงชำระเงินจำนวนดังกล่าวภายในวันที่……………ของทุกเดือน โดยเริ่มชำระเงินงวดแรกในเดือน………… พ.ศ………………..
2.4 เงินงวดสุดท้ายที่เหลืออีก……………….บาท (…………………………………)  ผู้จะซื้อต้องชำระให้แก่ผู้จะขายภายในวันที่………ของเดือน………………..พ.ศ…………
2.5 ในวันที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ณ สำนักงานที่ดิน สาขา………………………..หลังจากการก่อสร้างหรือชำระเงินรายงวดเดือนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งผู้จะขายได้กำหนดนัดแจ้งล่วงหน้าให้ผู้จะซื้อทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง โดยจะทำการแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า……………….วัน และผู้จะซื้อจะต้องชำระเงินส่วนที่เหลือ จำนวน………………….บาท (………………………) โดยชำระเป็นเงินสด/เช็คขีดคร่อม/แคชเชียร์เช็คในนามผู้จะขาย…………….วัน นับแต่วันที่ผู้จะขายได้แจ้งถึงเหตุขัดข้องให้ผู้จะซื้อทราบ
2.6  ผู้จะซื้อจะต้องชำระเงินให้แก่ผู้จะขายตามจำนวนและกำหนดเวลาในข้อ 2.3 หากผู้จะซื้อไม่ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวหรือผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้จะขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาฉบับนี้และริบเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระทั้งหมดทันที โดยผู้จะซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าตอบแทนใดๆ ทั้งยอมให้ผู้จะขายนำบ้านที่จะซื้อจะขายตามสัญญานี้ไปขายให้แก่บุคคลอื่นได้โดยไม่โต้แย้งหรือเรียกร้องเอาประโยชน์อื่นใด รวมทั้งค่าเสียหายจากผู้จะขายทั้งสิ้นหรือเมื่อผู้จะซื้อได้ผิดนัดชำระเงินตามวรรคก่อนแต่ผู้จะขายเลือกที่จะทำการได้แจ้งให้ผู้จะซื้อปฏิบัติตามสัญญาและชำระเงินที่ค้างชำระกันภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้ในหนังสือบอกกล่าวของผู้จะขาย  ในกรณีดังกล่าวผู้จะซื้อต้องชำระเงินที่ค้างชำระภายในกำหนดเวลาพร้อมกับเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของจำนวนเงินที่ค้างชำระ  โดยให้คิดตั้งแต่วันที่จำนวนเงิน      ดังกล่าวถึงกำหนดชำระจนถึงวันที่ได้รับชำระแล้ว การกระทำดังกล่าวนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิของผู้จะขายในการดำเนินการอย่างอื่นตามสัญญานี้
2.7 หากผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินค่างวดของแต่ละเดือนเป็นเวลา 2 เดือนติดต่อกันผู้จะขายมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ และริบเงินที่ผู้จะซื้อได้ชำระมาแล้วทั้งหมดได้ทันที โดยผู้จะซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ทั้งยอมให้ผู้จะขายนำบ้านที่จะซื้อจะขายตามสัญญานี้ไปขายให้แก่บุคคลอื่นได้โดยไม่โต้แย้งหรือเรียกร้องเอาประโยชน์อื่นใด รวมทั้งค่าเสียหายจากผู้จะขายทั้งสิ้น
2.8 ผู้จะซื้อสัญญาว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายอย่างใดๆ ในกรณีที่ผู้จะขายไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปเพราะเหตุสุดวิสัย ภาวะสงคราม หรือต้องห้ามตามกฎหมาย เป็นต้น ผู้จะขายจะทำการคืนเงินทั้งหมดที่ได้รับมาผู้จะซื้อให้แก่ผู้จะซื้อจนครบ โดยคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่เรียกร้องดอกเบี้ยหรือค่าเสียหายอื่นใดต่อกันอีก
          ข้อ 3.  ค่าธรรมเนียม อากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม
3.1 ผู้จะซื้อมีหน้าที่ออกค่าธรรมเนียม อากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่จะต้องชำระให้แก่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง โดยชำระเป็นเงินสดในวันที่ทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน ณ สำนักงานที่ดิน………………………………
3.2 ผู้จะขายเป็นผู้ชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ถึงกำหนดชำระก่อนหรือในวัน           จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ถึงกำหนดชำระหลังจากวันดังกล่าวผู้จะซื้อ          จะต้องเป็นผู้ชำระเองทั้งสิ้น
         ข้อ 4.  การโอนสิทธิ   ผู้จะซื้อจะทำการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาฉบับนี้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้จะขาย โดยแจ้งความประสงค์พร้อมทั้งรายละเอียดของผู้รับโอนเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังผู้จะขายเพี่อพิจารณา และทั้งนี้หากผู้จะขายตกลงยินยอมกับการโอนสิทธิและหน้าที่ ดังกล่าว ผู้จะซื้อให้สัญญาว่าตนตกลงยอมจ่ายค่าธรรมเนียมในการสัญญาฉบับใหม่เป็นเงินจำนวน………………บาท (……………………….) ให้แก่ผู้จะขายในวันทำสัญญาฉบับใหม่
อนึ่ง  ในกรณีที่มีการโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญานี้ ผู้รับโอนจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขในสัญญานี้ทุกประการ
          ข้อ  5.  ในกรณีที่มีความตกลงอื่นใดที่นอกเหนือจากข้อตกลงในสัญญาฉบับนี้แล้ว และข้อตกลงใหม่ที่จะดำเนินความตกลงกันนั้นไม่เป็นการขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเดิม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายให้สัญญาว่าจะทำบันทึกข้อตกลงไว้เป็นลายลักษณ์อักษรลงลายมือชี่อทั้งสองฝ่ายแนบท้ายสัญญา ฉบับนี้ และบันทึกข้อตกลงดังกล่าวที่แนบไว้ท้ายสัญญาให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ด้วย
สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านข้อความและเข้าใจสัญญาดีแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยานและเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ

    ลงชื่อ…………………………….ผู้จะขาย
             (………………………………….)
    ลงชื่อ………………….……....….ผู้จะซื้อ
             (………………………………….)
    ลงชื่อ………………..….………….พยาน
             (………………………………….)
    ลงชื่อ……………………...……….พยาน
             (………………………………….)

สัญญาเช่าห้องในอาคารเพื่อทำสำนักงาน

สัญญาเช่าห้องในอาคารเพื่อทำสำนักงาน

ทำที่……………………………………
วันที่…………..เดือน……… พ.ศ……………….

                     สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง  ………………อยู่บ้านเลขที่……………ถนน……………ตำบล/แขวง……………….อำเภอ/เขต………………จังหวัด……………………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง กับ…………………………….อยู่บ้านเลขที่………………………..…. ถนน…………………ตำบล/แขวง ………………อำเภอ/เขต………….จังหวัด……………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า  “ผู้ให้เช่า”   อีกฝ่ายหนึ่ง
    ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาเช่ากัน   มีข้อความดังต่อไปนี้
    ข้อ  1.   ทรัพย์ที่เช่า
    ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่า  และผู้เช่าตกลงเช่าห้องเลขที่………………….ชั้นที่ ……………เนื้อที่……….
ตารางเมตร  ในอาคาร…………….เลขที่………..ถนน………………..
ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต……………………….จังหวัด………………….
และผู้ให้เช่าได้ส่งมอบห้องที่เช่าให้แก่ผู้เช่าในสภาพที่เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญานี้
   ข้อ  2.  วัตถุประสงค์ของการเช่า
     การเช่าทรัพย์นี้ก็เพื่อให้เป็นสำนักงานของ……………………………………..
ดำเนินธุรกิจประเภท……………………………….เท่านั้น และห้ามมิให้ผู้ให้เช่าใช้สถานที่เช่าเป็นที่อยู่อาศัย    ทำครัว   ปรุงอาหาร หรือให้พนักงานหลับนอน
   ข้อ  3.   ระยะเวลาการเช่า
คู่สัญญาตกลงเช่าทรัพย์ตามข้อ  1.  มีกำหนดเวลา……………ปี ตั้งแต่วันที่…..………………….
เดือน………………พ.ศ.  ……………ถึงวันที่ …………….เดือน……………พ.ศ. ………….
    ข้อ  4.   อัตราค่าเช่า
อัตราค่าเช่าทรัพย์ตามข้อ  1 เดือนละ…………………………..บาท (……………………………)
โดยผู้เช่าได้ชำระให้แก่ผู้ให้เช่า ภายในวันที่……………………..ของทุกเดือน ณ   ที่ทำการงานของผู้ให้เช่า
    ข้อ  5.  เงินประกันการเช่า
ในวันทำสัญญานี้  ผู้เช่าได้วางเงินประกันจำนวน………บาท (………………..….) ให้แก่ผู้ใช้เช่า เพื่อเป็นประกันความรับผิดชอบของผู้เช่า
เงิน ประกันนี้ผู้ให้เช่าจะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า  หรือสัญญาเช่าสิ้นสุดลงโดยมิใช่ความผิดของผู้เช่า  และผู้เช่าไม่มีหนี้สินติดค้างชำระ  มิได้ผิดสัญญา  มิได้ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ  แก่ผู้ให้เช่า
    ข้อ  6.  การเก็บสิ่งของในสถานที่เช่า
    ผู้เช่าจะต้องไม่เก็บสิ่งของที่มีน้ำหนักเกินกว่า…………………….ปอนด์ ต่อหนึ่งตารางฟุตในสถานที่ เช่านอกจากนั้นหากผู้ให้เช่าเห็นว่าสิ่งของที่ผู้เช่านำมาในสถานที่เช่าอาจเป็นอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินผู้ให้เช่าจะสั่งให้ขนย้ายสิ่งของนั้นไปเสียจากสถานที่เช่าก็ได้ และผู้เช่าจะต้องปฏิบัติตามทันที
    ทรัพย์สินที่ผู้เช่าจะนำเข้ามาเก็บในสถานที่เช่า  ต้องเป็นทรัพย์สินที่จำเป็นแก่การปฏิบัติงานในกิจการองผู้เช่าเท่านั้น
    ผู้เช่าจะต้องไม่ใช้สถานที่เช่าเป็นที่เก็บสินค้าเกินกวาที่จะต้องเก็บไวเป็นตัวอย่างเท่านั้น   และห้ามมิให้นำอาวุธ   สิ่งของผิดกฎหมาย  แก๊ส  เชื้อเพลิง  หรือสิ่งของที่อาจเกิดอันตรายหรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่เจ้าของห้องข้างเคียง  และจะไม่ใช้สถานที่เช่าเป็นห้องทดลองเกี่ยวกับเคมี    หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้เช่าห้องข้างเคียง
    ข้อ  7.  การเข้ามาในอาคารที่เช่า
    ผู้เช่าจะเข้ามาในสถานที่เช่าได้เฉพาะตามวันและเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาบริการที่แนบท้ายสัญญานี้เท่านั้น
    ข้อ  8.   ป้ายชื่อชื่อหรือป้ายโฆษณา
    ผู้เช่าจะต้องไม่ติดป้ายชื่อหรือป้ายโฆษณาไว้นอกห้องที่เช่าในอาคาร  เว้นแต่จะติดตั้งไว้ในสถานที่ซึ่งผู้ให้เช่าจัดบริการไว้เท่านั้น
    ข้อ  9.  สิ่งอำนวยความสะดวกในอาหาร
    สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ   ในอาคาร………………………..เช่น ทางเดิน บันได    ระเบียบ ห้องน้ำ ห้องสุขภัณฑ์   และสิ่งอื่น ๆ    อันเป็นส่วนรวม ผู้เช่าต้องใช้ร่วมกับผู้เช่าคนอื่น   ๆ
    ข้อ  10.   การเช่าช่วง การโอนสิทธิการเช่า
    ห้ามมิให้ผู้เช่าดัดแปลงต่อเติมห้องที่เช่า  เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่า และไม่ว่าในกรณีใด ๆ     ก็ตาม   บรรดาสิ่งต่อเติมต่าง ๆ    ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที  ผู้เช่าจะรื้อถอนไปมิได้   เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ให้เช่าให้ผู้เช่ารื้อถอนไป   ผู้เช่าจะต้องรื้อถอนและจะซ่อมแซมห้องที่เช่าให้อยู่ในสภาพที่ดีดังเดิม   โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ   จากผู้ให้เช่า
    ข้อ  11.    การบำรุงรักษาซ่อมแซม
    ผู้เช่าต้องบำรุงรักษาซ่อมแซมห้องที่เช่าและอุปกรณ์ต่าง ๆ   เช่น  พื้น  ผนัง  เพดาน  ประตู  หน้าต่าง กระจก  อุปกรณ์ไฟฟ้า  เครื่องปรับอากาศ  และสิ่งของอื่น ๆ   ให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดระยะเวลาการเช่าด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง   หากผู้ให้เช่าจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไป  ผู้เช่าจะต้องชำระคืนให้แก่ผู้ให้เช่าภายในเวลา  3 วัน   นับจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
    ข้อ  12.  การดูแลทรัพย์สินของผู้เช่า
    ผู้เช่าต้องระมัดระวังดูแลทรัพย์สินของตนเองที่นำเข้ามาในห้องที่เช่า  ผู้ให้เช่าจะจัดยามดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณรอบ ๆ  อาคาร……………………………อันเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าเท่านั้นมากเกิดความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ แก่ทรัพย์สินของผู้เช่า   ผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบ
    ข้อ  14.   การประกันภัยทรัพย์สินของผู้เช่า
      หากผู้เช่าจะเอาประกันภัยทรัพย์สินของตนที่อยู่ในห้องที่เช่า   ผู้เช่าจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าก่อน
    ข้อ  15.   การตรวจตราดูแลทรัพย์สินที่เช่า
         ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าตรวจดูแลทรัพย์สินที่เช่าได้ตลอดเวลา  โดยผู้เช่าจะต้องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  ให้แก่ลูกจ้าง
   ข้อ  16.  การปฏิบัติตัวของผู้เช่า
     ผู้เช่าต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในฐานะผู้เช่าที่ดีจะพึงปฏิบัติต่อผู้เช่าคนอื่น ๆ   หรือต่อผู้ให้เช่า  หากผู้เช่าตัวแทน    หรือลูกจ้างของผู้เช่าได้กระทำการใด ๆ    อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เช่าคนอื่น    หรือต่อผู้ให้เช่าหรือในกรณีที่ผู้เช่าคนอื่นหรือผู้ให้เช่าไม่สามารถอยู่รวมกับผู้เช่าได้โดยปกติสุข   ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที  และผู้เช่าต้องชำระค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยสละสิทธิเรียกร้องใด ๆ  จากผู้ให้เช่า
    ข้อ  17.   การเลิกสัญญาก่อนครบการเช่าโดยผู้เช่า
     ในระหว่างอายุสัญญาเช่า หากผู้เช่าประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าโดยมิได้ผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดผู้เช่าจะต้องแจ้งเป็นหนังสือล่วงหน้าแก่ผู้ให้เช่าไม่น้อยกว่า ………………เดือน ผู้ให้เช่าจะคืนเงินประกัน   จำนวน …………….. บาท (……………………………….) แก่ผู้เช่า   ส่วนที่เหลือ
……………………………… บาท (………………………………..)  ผู้เช่าตกลงมอบให้ผู้ให้เช่าเป็นการชดใช้ค่าเสียหายฐานเลิกสัญญาก่อนกำหนด
   ข้อ  18.  กรณีตามกำหนดสัญญาเช่า
     ในกรณีผู้เช่าประสงค์จะขอเช่าต่อไปหลังครบกำหนดสัญญาเช่า   ผู้เช่าจะต้องแจ้งเป็นหนังสือล่วงหน้าแก่ผู้ให้เช่า   ไม่น้อยกว่า ……………..เดือน   ก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าฉบับนี้ เพื่อพิจารณาตกลงกันในรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป เช่นอัตราค่าเช่าและเงื่อนไขอื่น ๆ   ของสัญญาเช่า
   ข้อ  19.  กรณีผิดสัญญา
      หากผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด  หรือถูกยึดทรัพย์บังคับคดี   หรือถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย      ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญาเช่าได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน  นอกจากนั้นผู้ให้เช่ามีสิทธิงด   หรือระงับการให้บริการไม่ว่าทั้งหมด   หรือแต่บางส่วน   ตามสัญญาค่าบริการแนบท้ายสัญญานี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน
   ข้อ  20.  กรณีสัญญาเลิกกัน
เมื่อครบกำหนดอายุสัญญาเช่าก็ดี   หรือสัญญาเช่าเลิกกันด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดก็ดี  ผู้เช่าพร้อมบริวารต้องออกจากสถานที่เช่าทันที   พร้อมกับขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าออกไป  และส่งมอบสถานที่เช่าคืนผู้ให้เช่าในสภาพที่ดีพร้อมที่จะให้ผู้อื่นเช่าต่อได้ดังเดิม   หากผู้เช่าไม่ส่งมอบสถานที่เช่าคืน ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครองสถานที่เช่าคืนได้ทันที
      หากผู้เช่าไม่ขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากห้องที่เช่า  โดยหนังสือสัญญานี้ผู้เช่าตกลงยินยอมให้ผู้ให้เช่าปิดห้องเช่า   หรือทำการขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าออกไปจากสถานที่เช่าได้  โดยไม่ถือว่าการที่ให้ผู้เช่าปิดห้องหรือขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เช่าโดยปกติสุข   และผู้ให้เช่ามีสิทธินำสถานที่เช่าให้ผู้อื่นเช่าต่อได้ทันที
ผู้เช่าขอสละสิทธิเรียกร้องค่าทดแทน  หรือค่าเสียหายใด ๆ   อันอาจมีขึ้นจากการที่ผู้ให้เช่าขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น
      หากผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าที่ขนย้ายออกมาไปฝากไว้กับทางราชการหรือบุคคลอื่นใด   ผู้เช่าตกลงเป็นผู้ชำระค่ารักษาหรือค่ารับฝากทรัพย์สินดังกล่าวเอง
    คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความดีแล้วเห็นว่าสัญญาถูกต้อง  จึง ลงลายมือชื่อเป็นสำคัญต่อหน้าพยาน

   
ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า        ลงชื่อ……………………………….ผู้เช่า
      (………………………………………)                         (…………………………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน                ลงชื่อ……………………………….พยาน
        (………………………………………)                         (…………………………………)

หนังสือสัญญาขอเช่าอาคาร

หนังสือสัญญาขอเช่าอาคาร

                           สัญญาทำที่……………………วันที่………………พ.ศ. ………………
ระหว่าง………………….................………ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”   ฝ่ายหนึ่งกับ………………………………………… ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้เช่า”   อีกฝ่ายหนึ่งได้ทำสัญญากันดังต่อไปนี้:-
    ข้อ  1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงรับเช่า……………………………………..
    เพื่อประกอบกิจการ………………….……ที่ตำบล/แขวง……………….อำเภอ/เขต……………จังหวัด……………..มีกำหนดระยะเวลา……..ปี นับแต่วันที่……………พ.ศ. ….เป็นต้นไป
โดยผู้เช่ายอมเสียค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช้า เป็นเงินค่าเช่าเดือนละ ……บาท(….......…)
    ข้อ  2.  ผู้ให้เช่าได้รับเงินล่วงหน้าเป็นประกันการเช่าไว้จากผู้เช่าเป็นจำนวน……….บาท(…………)
    ข้อ  3.  ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าแก่ผู้ให้เช่าภายในวันที่ 5 ของเดือนทุก ๆ   เดือน ถ้าไม่ชำระตามกำหนดนี้   ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ายึดทรัพย์สินของผู้เช่าได้และใส่กุญแจห้องของผู้เช่าก็ได้
    ข้อ  4.  ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน…………………………………………………….เป็นผู้เสีย
    ข้อ  5.  ผู้เช่ายอมรักษาตัวห้องที่เช่ามิให้ชำรุดทรุดโทรมไปกว่าเดิม   ถ้าผู้เช่ามีความประสงค์จะดัดแปลงหรือเพิ่มเติมสิ่งใดลงไปอีก   ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะทำได้ ถ้าเกิดการเสียหายใด ๆ ขึ้น ผู้เช่ายอมรับผิดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น
    ข้อ  6.  บรรดาสิ่งก่อสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณห้องเช่า    เมื่อผู้เช่าออกจากห้องเช่า   ห้ามมิให้รื้อถอนหรือทำลายเป็นอันขาด   และสิ่งก่อสร้างหรือซ่อมแซมดังกล่าวแล้วนั้น ต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น โดยผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายใด ๆ ไม่ได้เลย   ถ้าห้องเช่าเกิดอัคคีภัยขึ้น   สัญญาเช่าเป็นอันระงับสิ้นสุดลง
    ข้อ  7.  ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนผู้ให้เช่าเข้าตรวจดูห้องเช้าได้เสมอ
    ข้อ  8.  ผู้เช่ารับว่าจะไม่ให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรและจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดอยู่อาศัยดำเนินกิจการค้าขายหรือรับใช้ในหน้าที่ใด ๆ   ภายในสถานที่เช่านี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
    ข้อ  9.  ผู้เช่าต้องจัดการภายในบริเวณห้องเช่าอย่าให้มีสิ่งโสโครกและกลิ่นเหม็นและไม่กระทำการอีกทึกจนคนอื่นได้รับความรำคาญปราศจากความปกติสุข และไม่เก็บรักษาสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิง และไม่กระทำสิ่งใด ๆ   ที่หวาดเสียวน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้ใกล้เคียง   ถ้าผู้เช่าออกไปจากห้องเช่าจะเรียกค่าเสียหายหรือค่าขนย้ายใด ๆ จากผู้ให้เช่าไม่ได้
    ข้อ  10.  ถ้าผู้เช่าจะประกันอัคคีภัยสำหรับทรัพย์สมบัติ   หรือสินค้าของตนภายในบริเวณห้องเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน จึงจะประกันอัคคีภัยได้
    ข้อ  11.  ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อให้ผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเดือนและผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใด   เป็นเงินเท่าใด หรือผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาพอสมควร
    ข้อ  12.  ถ้าผู้เช่าประพฤติผิดล่วงละเมิดสัญญาแม้แต่เพียงข้อหนึ่งข้อใด   หรือกระทำผิดหรือกระทำผิดวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งข้อใด ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเข้ายึดครองสถานที่ และสิ่งที่เช่าได้โดยพลัน   และมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทันที
    ข้อ  13.  เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้ให้เช่าขายทรัพย์สินตามข้อ 11.   ก็ดี  หรือผู้เช่าผิดสัญญาเช่าตามข้อ  12.  ก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายอมออกจากที่เช่า
    ข้อ  14.  ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจใจข้อสัญญานี้   โดยตลอดแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน


ลงชื่อ………………………...………ผู้ให้เช่า
       (…………………………………) 

ลงชื่อ…..……………………………….ผู้เช่า
        (…………………………………)

ลงชื่อ……………………….…………พยาน
        (…………………………………)

ลงชื่อ…………………………………พยาน
        (…………………………………)

สัญญาเช่าห้องพัก

สัญญาเช่าห้องพัก 

ทำที่………………………………………..
วันที่……………เดือน………………..พ.ศ. 254…………..

             สัญญาเช่าฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………ดังที่อยู่ข้างต้น   ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า   “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่งกับ ………………………อยู่บ้านเลขที่………….หมู่บ้าน…………
ถนน……………………..ตำบล/แขวง…………………อำเภอ/เขต…………………………….จังหวัด…….……………………โทร ……………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาได้ตกลงกันดังนี้
    ข้อ  1.   ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าห้องพักเลขที่………….ชั้นที่ ………ในอาคารของผู้ให้เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยภายใต้ระเบียบที่ผู้ให้เช่ากำหนด โดยเฉพาะไม่ก่อกวน ต้องสงบในยามวิกาล ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่ทำผิดศีลธรรมและกฎหมาย
    ข้อ  2.  ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าล่วงหน้า ………..เดือนและเป็นรายเดือน โดยกำหนดชำระค่าเช่าภายในวันที่…………………ของทุกเดือน ในอัตราค่าเช่าเดือนละ……………บาท (………………………………..)  กรณีผู้เช่าชำระล่วงหน้า  1  ปี  ผู้ให้เช่ายินยอมลดให้………….เดือน และกรณีผู้เช่าชำระล่วงหน้า………….. เดือนผู้ให้เช่ายินยอมลดให้ครึ่งเดือน
    ข้อ  3.  ผู้เช่าตกลงจะนำค่าเช่ามาชำระให้   ณ   ที่ทำการของผู้ให้เช่าหรือตัวแทนภายกำหนด
    ข้อ  4. ห้ามเช่าช่วงเป็นอันขาด   เว้นแต่ผู้ให้เช่าตกลงยินยอมด้วยเป็นลายลักษณ์อักษร
    ข้อ  5.  ค่าน้ำประปา   ค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายอื่น   ถ้ามิให้เรียกเก็บตามอัตราในมิเตอร์หรือโดยเฉลี่ยจากผู้เช่า
    ข้อ  6.  ผู้เช่าต้องบำรุงรักษาห้องเช่ารวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า มุ้งลวด   กระจกบานเกล็ด กุญแจห้อง กลอนประตู   พักลม หลอดไฟ เสื่อ ฝาผนัง   และอื่น ๆ   ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ   หากเกิดชำรุดเสียหายไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม   ผู้เช่าต้องทำให้กับคืนสู่สภาพเดิมทันที   ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่า
    ข้อ  7.  ผู้เช่ามีหน้าที่รักษาความสะอาดตามกฎหมาย   ไม่เก็บวัตถุไวไฟหรือสิ่งอันตรายหรือสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย    ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าตรวจความถูกต้องเรียบร้อยในห้อง
    ข้อ  8.  ผู้เช่าจะดัดแปลงต่อเติมหรือรื้อถอนทรัพย์สินที่เช่าทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
    ข้อ  9.  ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนดไว้ในข้อ 2.  ผู้ให้เช่าต้องทวงสิทธิไว้ในการกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญานี้โดยฉบับพลัน   และผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าย้ายบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้เช่าออกไปจากทรัพย์ที่เช่าตามสัญญานี้
    ข้อ  10.  ผู้เช่ามีหน้าที่แจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าในการเลิกเช่าไม่น้อยกว่าสามสิบวันจึงจะได้รับเงินล่วงหน้าคืนหรืออยู่อาศัยโดยหักจากการชำระล่วงหน้าตามข้อ 2
    ข้อ  11.   ในวันทำสัญญานี้ ผู้เช่าได้ตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าแล้วเห็นว่ามีสภาพปกติดีทุกประการและผู้ให้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้เช่าแล้ว
    ข้อ  12.   ผู้เช่าได้มอบสำเนาบัตรประจำตัว สำเนาทะเบียนบ้านและเอกสารแสดงตัวตามกฎหมายที่ไม่หมดอายุพร้อมรูปถ่าย………………รูป   ให้ไว้กับผู้ให้เช่า
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและทำความเข้าใจดีแล้ว  จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน


ลงชื่อ……………………………………ผู้เช่า        ลงชื่อ……………………………….ผู้ให้เช่า
      (………………………………………)                         (…………………………………)
ลงชื่อ……………………………………พยาน                ลงชื่อ……………………………….พยาน
        (………………………………………)                         (…………………………………)

สัญญาเช่าห้องและบริการในอาคาร

สัญญาเช่าห้องและบริการในอาคาร
ทำที่…………………………………………………………
วันที่…………..เดือน……………………… พ.ศ…………………….

                       สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง  ………………………อยู่บ้านเลขที่…………………………
ถนน………ตำบล/แขวง………….อำเภอ/เขต………………จังหวัด……………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง กับ…………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ให้เช่า”   อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาเช่ากับมีข้อความดังต่อไปนี้

หมวด  ก.  การเช่าห้องและบริการในอาคาร
ข้อ  1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่า   ห้องที่…………….ชั้นที่ ……………เนื้อที่………..
ตารางฟุต  อาคารดังกล่าวตั้งอยู่เลขที่…………..ถนน…………..ตำบล/แขวง………………………อำเภอ/เขต…………….จังหวัด……………. รวมทั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์
ซึ่งติดตั้งอยู่ขณะทำสัญญานี้   หรือที่จะมีขึ้นในภายหน้า
    ข้อ  2.  ผู้ให้เช่าตกลงที่จะจัดให้มีการบริการแก่ผู้เช่าตามเงื่อนไขในสัญญาหมวด ข.  ของสัญญา    ฉบับนี้
    ข้อ    3.   สัญญาเช่าห้องและบริการในอาคารฉบับนี้ มีกำหนดเวลา….…ปี
นับตั้งแต่วันที่……….เดือน……………………พ.ศ.  ……………ถึงวันที่ …………….เดือน………………พ.ศ. ………………โดยผู้เช่าตกลงที่จะชำระค่าเช่าห้องและบริการเป็นรายเดือน ซึ่งแยกเป็นอัตราค่าเช่าห้อง เดือนละ………..บาท (..……………) ค่าบริการปกติในอัตราเดือนละ …………….บาท (………………….)รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน…………….บาท (………………........) และผู้เช่าตกลงที่จะนำไปชำระให้แก่ผู้ให้เช่า ณ สถานที่ทำการงานของผู้ให้เช่าภายในวันที่……..ของทุกเดือน
    ข้อ 4.  ในวันทำสัญญานี้   ผู้เช่าได้มอบเงินประกันจำนวน ……………...บาท (………………….) ให้แก่ผู้ให้เช่า   เพื่อเป็นประกันความรับผิดชอบของผู้เช่าเงินประกันนี้ผู้ให้เช่าจะคืนให้แก่ผู้เช่าเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว   หรือเมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลง โดยมิใช่ความผิดของผู้เช่า  และผู้เช่าไม่มีหนี้สินค้างชำระแก่ผู้ให้เช่า
ในกรณีที่ผู้เช่ามีหนี้สินค้างชำระแก่ผู้ให้เช่า   ผู้ให้เช่ามีสิทธิหักเงินประกันได้  และหากยังมีเงินเหลืออยู่  ผู้ให้เช่าจะคืนให้แก่ผู้เช่า  แต่หากหนี้สินจากเงินประกันแล้วยังไม่คุ้มกับเงินที่ผู้เช่าจะต้องชำระ   ผู้ให้เช่ายังมีสิทธิเรียกร้องจากผู้เช่าจนครบ
หมวด  ข.    ขอบเขตและเงื่อนไขของการบริการ
        ข้อ  5.  ผู้ให้เช่าตกลงที่จะจัดให้มีการบริหารปกติแก่ผู้ให้เช่าเฉพาะในวันราชการตั้งแต่เวลา…………น.   ถึง  เวลา …………น.
  การบริการปกตินี้ผู้เช่าต้องเสียค่าบริการพร้อมค่าเช่าตามที่ได้กล่าวไว้ใน  หมวด ก.  ข้อ  3.  ซึ่งได้แก่การบริการต่อไปนี้ คือ
(1)    บริการทำความสะอาดในสถานที่ที่ใช้ร่มกันในตัวอาคาร
(2)    บริการห้องสุขาและน้ำใช้ในห้องสุขา
(3)    บริการเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในตัวอาคาร
(4)    บริการเครื่องปรับอากาศและการปรับภาวะอากาศ
(5)    บริการอุปกรณ์ดับเพลิงภายในตัวอาคาร
(6)    บริการลิฟท์และบันไดเลื่อนสำหรับส่งบุคคล  หรือสิ่งของภาในตัวอาคาร
(7)    บริการให้ใช้ที่จอดรถภายในตัวอาคาร  จำนวน……………..คัน โดยผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดชอบในความสูญหายหรือเสียหายใด ๆ  ทั้งสิ้น
(8)    บริการเวรยามรักษาความปลอดภัยภายในตัวอาคาร
(9)    …………………………………………….
    ข้อ  6.  ผู้ให้เช่าอาจจะจัดให้มีบริการพิเศษตมที่ผู้เช่าร้องขอ และหากผู้ให้เช่าตกลงที่จะจัดบริการพิเศษให้ผู้เช่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม   ซึ่งได้แก่ การบริการต่อไปนี้คือ
(1)  บริการปรับภาวะอากาศนอกเหนือการบริการปกติ   ผู้เช่าจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมในอัตรา   ชั่วโมงละ ………………บาท (……………………………..)
(2)  บริการกระแสไฟฟ้าซึ่งต่อจากระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โดยผู้เช่าจะต้องจัดหามาตรวัดหน่วย    ไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่น ๆ   ที่จำเป็นในการติดตั้งเอง    อัตราค่าบริการคิดเป็นจำนวนหน่วยที่ใช้ของการไฟฟ้านครหลวง   โดยคิดอัตราหน่วยละ………………บาท (………………………..)
(3)  บริการโทรศัพท์ (เครื่องพ่วง)   เครื่องละ………บาท ต่อเดือน (………………..)  ซึ่งใช้ติดต่อภายในอาคารเท่านั้น  หากผู้เช่าใช้ติดต่อภายนอกอาคารผู้เช่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตรา…….
    ข้อ  7.  อัตราค่าบริการพิเศษอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามส่วนที่มีการขึ้นลงของอัตราค่ากระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง   และอัตราค่าโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์
    ข้อ  8.  ผู้เช่าต้องชำระค่าบริการพิเศษ ภายในระยะเวลา 3 วัน นับจากวันได้รับคำบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่า
    ข้อ  9.  ในกรณีที่มีเหตุขัดข้องทำให้ผู้ให้เช่าต้องลดการบริการลง หรือไม่สามารถให้การบริการให้แก่ผู้เช้าได้   ไม่ว่าจะเป็นการบริการปกติ   หรือการบริหารพิเศษก็ตาม   ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ แก่ผู้เช่า
    หมวด  ค.  เงื่อนไขของการเช่าห้องในอาคาร
    ข้อ  10.   ผู้เช่าจะใช้ห้องที่เช่า เพื่อ……………………………………………………………เท่านั้น
    ข้อ  11.  ผู้เช่าจะไม่ใช้ห้องที่เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอน   หรือยินยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเข้าอาศัยหลับนอนในห้องที่เช่า
    ข้อ  12.  ผู้เช่าจะไม่เก็บรักษาหรือนำเข้ามาในที่เช่า ซึ่งอาวุธ   สิ่งของผิดกฎหมาย วัตถุไวไฟ หรือสิ่งของที่อาจเกิดอันตราย หรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้เช่าข้างเคียง
    ข้อ  13.  ผู้เช่าจะใช้ประโยชน์ในสถานที่เช่าด้วยความสงบเรียบร้อย   ไม่กระทกหรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำการใด ๆ    ภายในห้องที่เช่าโดยขัดต่อกฎหมาย   หรือขัดต่อศีลธรรมอันดี หรืออาจเป็นอันตรายต่อ   สุขภาพอนามัย    หรือเป็นที่น่ารังเกียจ หรือเป็นที่น่ารำคาญแก่ผู้ให้เช่า หรือผู้เช่าข้างเคียง
    ข้อ  14.  ผู้เช่าจะไม่เก็บสิ่งของหรือนำเข้ามาในห้องที่เช่าซ้อสิ่งของที่มีน้ำหนักเกินกว่า……….ปอนด์
ต่อหนึ่งตารางฟุต   โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อน
    ข้อ  15.  ผู้เช่าจะต้องไม่ติดตั้งป้ายชื่อ หรือป้ายโฆษณา   หรือเสาอากาศ   หรือสิ่งอื่นใดไว้นอกห้องที่เช่า เว้นแต่จะติดตั้งไว้ในสถานที่ซึ่งผู้ให้เช่าจัดบริการไว้เท่านั้น
    ข้อ  16.  ห้ามมิให้ผู้เช่าคัดแปลงต่อเติมสถานที่เช่า เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อน และไม่ว่ากรณีใด ๆ   สิ่งที่ซึ่งได้ดัดแปลงหรือต่อเติมต่าง ๆ   ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ให้เช่าให้ผู้เช่ารื้อถอนไป ผู้เช่าต้องซ่อมแซมสถานที่เช่าให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม
    ข้อ  17.  ผู้เช่าต้องเป็นผู้บำรุงรักษา และซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ    ในห้องที่เช่าด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเอง
    ข้อ  18.  ห้ามมิให้ผู้เช่าเองประกันภัยทรัพย์สินของตนที่อยู่ในห้องที่เช่า   เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อน
    ข้อ  19.  ห้ามมิให้ผู้เช่านำห้องที่เช่าไปให้ผู้อื่นเช่าช่วง   หรือโอนสิทธิการเช่า   เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้เช่าก่อน
    ข้อ  20.  ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าตรวจดูแลทรัพย์สินที่เช่าได้ตลอดเวลา   โดยผู้เช่าจะต้องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ   ให้แก่ผู้ให้เช่า
    หมวด  ง.  สัญญาเลิกกัน
    ข้อ  21.   หากผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หรือถูกยึดทรัพย์บังคับคดี   หรือถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญาเช่าได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน
    ข้อ  22.  เมื่อครบอายุการเช่าก็ดี   หรือสัญญาเลิกกันด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดก็ดี ผู้เช่าต้องขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากห้องที่เช่า และส่งมอบคืนห้องที่เช่าให้แก่ผู้เช่าในสภาพที่เรียบร้อยดังเดิม   หากผู้เช่าไม่ได้ส่งมอบคืนห้องที่เช่า ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครองห้องที่เช่าได้ทันที
    หากผู้เช่าไม่ขนย้ายทรัพย์สินออกจากห้องที่เช่า  โดยหนังสือสัญญานี้  ผู้เช่าตกลงยินยอมให้ผู้ให้เช่าปิดห้องเช่า  หรือทำการขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าออกไปจากสถานที่เช่าได้  และผู้ให้เช่ามีสิทธินำห้องที่เช่าไปให้ผู้อื่นเช่าต่อได้ทันที
    หากผู้ให้เช่านำทรัพย์สินของผู้เช่าที่ขนย้ายออกไปฝากไว้กับบุคคลหนึ่งบุคคล  ผู้เช่าตกลงเป็นผู้ชำระค่ารักษาหรือค่ารับฝากทรัพย์สินดังกล่าวเอง  และผู้เช่าขอสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ   อันอาจมีขึ้นจากการที่ผู้ให้เช่าขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น
    สัญญานี้ทำขึ้นเป็น……………………..ฉบับ   มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความดีแล้ว เห็นว่าสัญญาถูกต้องจึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน

ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า        ลงชื่อ……………………………….ผู้เช่า
      (………………………………………)                         (…………………………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน                ลงชื่อ……………………………….พยาน
        (………………………………………)                         (…………………………………)

สัญญาให้เช่าที่ดินระยะยาว

สัญญาให้เช่าที่ดินระยะยาว

สถานที่ทำสัญญา……………………………….
วันที่………………..เดือน…………………..พ.ศ. …………….

             สัญญานี้ทำในระหว่าง…………………………….ตั้งอยู่เลขที่………………………..ถนน………………ตรอก/ซอย …………………ตำบล/แขวง…………………..…………………….อำเภอ/เขต……………………จังหวัด…………………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”
ฝ่ายหนึ่ง   กับ ……………………….สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ ………………….ถนน………………….
ตรอก/ซอย ………..…ตำบล/แขวง…….…….อำเภอ/เขต………………จังหวัด………………… 
   ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”   อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาไว้ต่อกันดังมีข้อความต่อไปนี้: -
    ข้อ  1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่า   ผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินตั้งอยู่ที่……………ตามหมายเลขโฉนดที่……..
…………………เลขที่ดิน……………..ตำบล/แขวง ………..อำเภอ/เขต…………...
จังหวัด…………..มีเนื้อที่…………………ไร่ ………………งาน ……….ตารางวา เพื่อประโยชน์
ในการ…………………………………………………………………………………………….
    ข้อ  2.  ผู้เช่าสัญญาว่า จะใช้ที่ดินดังกล่าวเพื่อ…………………………………………………..
เท่านั้น  หากผู้เช่าประสงค์จะก่อสร้างอาคารหรือเปิดกิจการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ดังกล่าวแล้วผู้เช่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน
    ข้อ  3.  ผู้เช่าสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าดังนี้:-
3.1    ตั้งแต่วันที่ ………ถึงวันที่ …………..ค่าเช่าเดือนละ ………………บาท (……………………)
3.2    ตั้งแต่วันที่……… ถึงวันที่ ……….….ค่าเช่าเดือนละ ……...…......…บาท (………....…………)
    ในระหว่างเวลาที่ตกลงเช่ากันนี้  ถ้าค่าของเงินบาทไทยเทียบกับค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินในท้องตลาดลดต่ำลงหรือสูงขึ้นเกินกว่า  20%   ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินในวันทำสัญญานี้แล้วคู่สัญญาต่างตกลงกันเปลี่ยนอัตราค่าเช่าเสียใหม่โดยคิดอัตราค่าเช่าเพิ่มหรือลดลงตามส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น (อัตราแลกเปลี่ยนในวันทำสัญญานี้   หนึ่งดอลล่าร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ …………………………..บาท ในการชำระค่าเช่า   ผู้เช่าตกลงชำระเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นงวด ๆ ละ …………เดือน ภายในกำหนด………..วัน นับแต่วันต้นงวดของวดนั้น ๆ
    ข้อ  4.  สำหรับอายุการเช่านั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้เช่าและเช่าเริ่มตั้งแต่วันที่ ………..เดือน
…………พ.ศ. ……………….จนถึงวันที่ ……………..เดือน ……………..พ.ศ. …………….
    เมื่อพ้นวันที่……………….เดือน …………………….พ.ศ. …………..อันเป็นวันสิ้นสุดแห่งสัญญาเช่านั้นแล้ว  ผู้เช่ายอมให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่อยู่ในที่ดินแปลงนี้  ทั้งอุปกรณ์และส่วนควบต่าง   ๆ   และรวมทั้งสังหาริมทรัพย์ใด ๆ   ที่ใช้เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวแล้ว  หรือเกี่ยวเนื่องกับกิจการดังกล่าว  ซึ่งหมายรวมถึงเครื่องเฟอร์นิเจอร์เครื่องทำความเย็น   พัดลม  เครื่องโทรศัพท์   เครื่องไฟฟ้า  เครื่องซักผ้า  เครื่องครัว ฯลฯ  ทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที  โดยปลอดจากภาระจำนองและหนี้สินใด ๆ  ทั้งสิ้น
    ข้อ  5.  เมื่ออาคารสิ่งปลูกสร้างและสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ   ดังกล่าวในข้อ 4 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าแล้วผู้ให้เช่าสัญญาว่าจะยอมให้ผู้เช่าได้เช่าเพื่อประกอบกิจการต่อไปอีกมีกำหนดอีก ……ปี
นับแต่วันหมดอายุสัญญาเช่า  ส่วนอัตราค่าเช่าแล้วแต่จะตกลงกันด้วยเหตุผลและเป็นธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่ายตามสภาพการณ์ในขณะนั้น
    ข้อ  6.  เมื่อผู้ให้เช่าได้จ่ายเงินค่าภาษีที่ดินก็ดี ภาษีและค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่เกิดจาก หรือเกี่ยวเนื่องกับที่ดินที่เช่าในขณะนี้ หรือที่อาจจะมีขึ้นในภายหน้าก็ดี เมื่อผู้ให้เช่าชำระไปแล้วผู้ให้เช่ามีสิทธิจะเรียกร้องจากผู้เช่าได้ทุก ๆ ครั้งที่ผู้ให้เช่าได้จ่ายไปตลอดเวลาที่เช่าอยู่นั้นทั้งสิ้น   โดยเงินดังกล่าวทั้งสองถือว่าเป็นค่าเช่าเพิ่มเติมที่ผู้เช่าจะต้องชำระให้แก่ผู้ให้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าเรียกร้อง
    ข้อ  7.  ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่านำที่ดินหรืออาคารที่ปลูกสร้างไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงได้ แต่จะต้องอยู่ภายในกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญานี้ และผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนด   7 วัน นับแต่วันตกลงกับผู้เช่าช่วง
    หากมีผู้อื่นมาปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน  จะเป็นกรณีให้เช่าช่วงหรือปลูกสร้างโดยกรณีใด ๆ   ก็ตาม  เมื่อสัญญานี้หมดกำหนดอายุสัญญาเช่าแล้ว  อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นจะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าตามสัญญาข้อ  4.  ทันที หากไม่อาจจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าตามกฎหมายได้ด้วยประการใด ๆ   ผู้เช่ายอมชดใช้ราคาอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นให้ผู้ให้เช่าตามราคาค่าก่อสร้างในขณะนั้น
    ข้อ  8.  ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่านำเอาอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกอยู่ในที่ดินของผู้ให้เช่าตามสัญญานี้ ไปทำการจำนองหรือเป็นประกันหนี้กับธนาคารพาณิชย์หรือบุคคลใดได้ตามที่เห็นสมควร แต่ผู้เช่าจะต้องแจ้งรายการละเอียดให้ผู้ให้เช่าได้ทราบล่วงหน้าทุกครั้งที่จะมีการจำนองหรือประกันหนี้นั้น
    การจำนองหรือการค้ำประกันหนี้ดังกล่าวในวรรคก่อน   จะต้องมีระยะเวลาไม่นานเกินกว่า ….ปีนับแต่วันทำสัญญานี้ และไม่ว่าในกรณีใด ๆ   ผู้เช่าจะต้องทำการไถ่ถอนการจำนองหรือการประกันหนี้ เพื่อให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการ …………………………นั้นปลอดจากการจำนองหรือการประกันหนี้ภายในวันที่ …………..เดือน ………………..พ.ศ………………..
    หากผู้เช่าไม่ทำการไถ่ถอนหรือไม่สามารถทำการไถ่ถอนการจำนองหรือการประกันหนี้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ   ได้ภายในกำหนดดังกล่าวในวรรคสอง   คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้สัญญาเช่าฉบับนี้สิ้นสุดทันทีและให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งอุปกรณ์และส่วนควบต่าง ๆ   และ ฯลฯ   ตามที่ระบุไว้ในข้อ  4.  ตกเป็นของผู้ให้เช่าทันที ในการนี้ถ้าหากเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่าต้องได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากภาระจำนองหรือการบังคับจำนองก็ดีหรือเกิดจากหนี้สินใด ๆ ที่ผู้เช่าได้กระทำไว้ก็ดี   ผู้เช่ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้นตลอดจนดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากเงินค่าเสียหายนั้นให้แก่ผู้ให้เช่าจนครบถ้วน
    ข้อ  9.  หากผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตามข้อ 3.  หรือไม่จ่ายค่าภาษีอันถือว่าเป็นค่าเช่าเพิ่มเติมตามข้อ  6.  ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าได้   แต่ผู้ให้เช่าจะต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้เช่านำเงินค่าเช่าตามข้อ 3.   หรือเงินภาษีตามข้อ  6.  มาชำระเสียครั้งหนึ่งก่อน   ภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน   นับแต่วันที่คำบอกกล่าวได้ไปถึงผู้เช่า   หากผู้เช่าละเลยก็ให้อาคารที่ปลูกสร้างทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าตามนัยสัญญาข้อ 4.  และข้อ  7.  ด้วย
    ข้อ  10   ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงกันให้สัญญานี้เริ่มแต่วันที่ ……เดือน………พ.ศ.  ………..เป็นต้นไป

    สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อตรงกัน  ผู้ให้เช่าและผู้เช่าได้อ่านข้อความในสัญญานี้เข้าใจดีแล้วจึงลงชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน   และต่างได้เก็บไว้เป็นหลักฐานฝ่ายละหนึ่งฉบับ

ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า       
        (………………………………………)                  

ลงชื่อ…………………………………….ผู้เช่า 
      (…………………..…………………)

ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (………………………………………)   

ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (………………………………………)   

ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (………………………………………)   

สัญญาเช่าที่ดินเพื่อทำประโยชน์

สัญญาเช่าที่ดินเพื่อทำประโยชน์

        สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น  ณ  บ้านเลขที่ ………ถนน…..ตำบล/แขวง…….อำเภอ/เขต………..จังหวัด……………………
        เมื่อวันที่………………ระหว่าง………..…….อายุ………ปีอยู่บ้านเลขที่……………….
จังหวัด………ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่…………..ออกให้ณ  ……….เมื่อวันที่……………….
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้ให้เช่า" ฝ่ายหนึ่ง
    กับ…………………..อายุ………ปีอยู่บ้านเลขที่……….ถนน…………….ตำบล/แขวง……………อำเภอ/เขต…………………จังหวัด……......………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า"   อีกฝ่ายหนึ่ง
    คู่สัญญาทั้งสองได้ตกลงกันทำสัญญาฉบับนี้ขึ้นดังมีข้อความต่อไปนี้
    ข้อ  1.   ผู้ให้เช่าขอยืนยันว่าเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามโฉนดเลขที่ …………………………..
หน้าที่สำรวจ…………………ตำบล…………………อำเภอ…………….จังหวัด……………….
จำนวนเนื้อที่ดิน…………ตารางวา   และที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินซึ่งปลอดจากสิทธิและภาระผูกพัน
ใด  ๆ  ทั้งสิ้น
    ข้อ  2.   ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่า   และผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินดังกล่าวในข้อ 1.  มีกำหนดระยะเวลาการเช่ายี่สิบเจ็ดปี  นับแต่วันจดทะเบียนการเช่าตามสัญญานี้   เพื่อผู้เช่าเข้าทำประโยชน์โดยตรงในที่ดินของ   ผู้ให้เช่าได้ทุกประการ  ไม่ว่าผู้เช่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือใช้ทำประโยชน์อย่างใด  รวมตลอดถึงการที่     ผู้เช่าปลูกสร้างอาคาร  สิ่งปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่าด้วย
    ข้อ  3.   ผู้เช่าตกลงส่งมอบการครอบครองที่ดินในข้อ 1.  ให้แก่ผู้เช่าในวันที่…………และในวันเดียวกันนี้คู่สัญญาจะนำสัญญานี้ไปจดทะเบียนการเช่า ณ……………โดยผู้เช่ายอมเสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนการเช่าแต่เพียงฝ่ายเดียว
    ข้อ  4.   ผู้เช่าตกลงชำระค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือนในอัตราค่าเช่าเดือนละ………. บาท       (………………)   โดยภายในเวลาหนึ่งปีแรกของระยะเวลาการเช่าให้เช่าตกลงยอมให้ผู้เช่าไม่ต้องชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าแต่อย่างใด   ดังนั้น ผู้เช่าจึงเริ่มต้นชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าครั้งแรก เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับจากวันจดทะเบียนการเช่าไปแล้ว
    ข้อ  5.   ในระหว่างระยะเวลาการเช่าตามสัญญานี้เวลาหนึ่งเวลาใด  ถ้าผู้เช่าจะทำการปลูกสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่าโดยค่าใช้จ่าย   และทุนทรัพย์ของผู้เช่าเองผู้ให้เช่าตกลงยินยอมอนุญาตให้ผู้เช่ายื่นแบบเรื่องราวขออนุญาตปลูกสร้างอาคารและขอติดตั้งมิเตอร์น้ำประปา  ไฟฟ้า  ต่อทางหน่วยราชการได้   จะเป็นโดยในนามของผู้ให้เช่าหรือในนามของผู้เช่าเองก็ตาม   ผู้ให้เช่าตกลงว่าผู้ให้เช่าจะให้ความสะดวกและให้ความร่วมมือลงชื่อในเอกสารทุกฉบับที่ต้องใช้ในการยื่นแบบเรื่องราวขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร  และขอติดตั้งมิเตอร์   ประปา  ไฟฟ้า  ในทันทีที่ผู้เช่าส่งเอกสารดังกล่าวมาให้     ผู้ให้เช่าทุกครั้งไป
   ข้อ  6.   คู่สัญญาตกลงว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการเช่าตามสัญญานี้แล้ว อาคารสิ่งปลูกสร้างที่ผู้ให้เช่าออกให้เช่าช่วง   หรือโอนให้บุคคลอื่นเช่าต่อไปได้ตลอดระยะเวลาการเช่าที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
   ข้อ  7.   ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่านำที่ดินของผู้ให้เช่า หรืออาคาร    สิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่าออกให้เช่าช่วง   หรือโอนให้บุคคลอื่นเช่าต่อไปได้ตลอดระยะเวลาการเช่าที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
    ข้อ  8.   ผู้ให้เช่าตกลงว่า ในกรณีที่ผู้เช่านำที่ดินของผู้ให้เช่า หรืออาคาร   สิ่งปลูกสร้าง ที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่า ออกให้เช่าช่วงหรือโอนให้บุคคลอื่นเช่าต่อไปแล้ว บรรดาเงินแป๊ะเจี๊ยะ ค่าเช่าหรือค่าตอบแทน ในทำนองเดียวกัน   ที่ผู้เช่าเรียกเก็บจากผู้เช่าช่วง หรือบุคคลอื่นนั้น ให้ผู้เช่าเป็นผู้กำหนดได้เองและตกเป็นของผู้เช่าทั้งสิ้น
    ข้อ  9.   ในระหว่างระยะเวลาการเช่า   หากผู้เช่ามีความประสงค์จะทำการซ่อมแซมแก้ไข           คัดแปลงอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ที่ผู้เช่าปลูกสร้างลงในที่ดินของผู้ให้เช่า หรือทำการปลูกสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมลงในที่ดินของผู้ให้เช่าแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าทำได้และผู้ให้เช่าจะไม่ถือว่า       ผู้เช่าปฏิบัตินอกเหนือเกินเลยไปกว่าขอบเขตหรือวัตถุประสงค์แห่งสัญญานี้เป็นอันขาด
    ข้อ  10.   ผู้ให้เช่าสัญญาว่า ผู้เช่าจะดูแลรักษาทรัพย์สินที่เช่าเหมือนหนึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เช่าเองและจะให้ความสะดวกแก่ผู้ให้เช่าในการตรวจตราทรัพย์ที่เช่าตามสมควร
   ข้อ  11.   เมื่อผู้เช่าผิดนัดสัญญาหรือไม่ปฏิบัติตามสัญญานี้ข้อหนึ่งข้อใด   ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าใช้สิทธิบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญานี้   หรือบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้ตามความเป็นจริงในทางกลับกัน   ถ้าผู้ให้เช่าผิดนัดผิดสัญญา   หรือไม่ปฏิบัติตามสัญญานี้ข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่าใช้สิทธิบอกกล่าวให้ผู้ให้เช่าปฏิบัติตามสัญญานี้ หรือบอกเลิกสัญญาและเรียกค่าเสียหายได้ตามเป็นความจริงเช่นกัน

สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสามฉบับ ๆ  ละสองหน้า  มีข้อความอย่างเดียวกัน   คู่สัญญาต่างเก็บไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ   และคู่สัญญาได้มอบไว้  ณ  …………………อีกหนึ่งฉบับ   คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจข้อความในสัญญานี้ดีแล้ว    เพื่อเป็นหลักฐาน จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานในวันเดือนปีที่กล่าวข้างต้น
ลงชื่อ……………………….……………….ผู้ให้เช่า
        (………………..…………………….)   
ลงชื่อ………………………………………..ผู้เช่า
       (………………………………………..)
                                                                              ลงชื่อ……………………………………….พยาน    
        (………………………………..…….)          
ลงชื่อ………………………………………..พยาน
                                                                       (………………………………………)                     
                                                                                                                          (…………………………………..)  ทั้งนี้  ผู้เช่ารับว่าจะเป็นฝ่ายนำค่าเช่าทรัพย์สินจำนวนดังกล่าวไป
ชำระให้แก่ผู้ให้เช่า   ณ  ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่าภายในวันที่………….ของทุกเดือน   โดยเริ่มตั้งเดือน…….
………………………..เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา

สัญญาเช่าร้านค้าในห้างสรรพสินค้า

สัญญาเช่าร้านค้าในห้างสรรพสินค้า

    เขียนที่……………………………….……………
    วันที่…………เดือน…………………..พ.ศ.………………

                                     สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง……………………โดย…………………………...ผู้มีอำนาจกระทำการแทน สำนักงานตั้งอยู่ ณ…………………..ตรอก/ซอย………………….ถนน……………………ตำบล/แขวง…………………อำเภอ………………จังหวัด………………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง   กับ…………………..อยู่บ้านเลขที่…………………ตรอก/ซอย…………………..ถนน………………ตำบล/แขวง………………อำเภอ……………จังหวัด……………………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า  “ผู้เช่า”   ฝ่ายหนึ่ง  
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1.  ผู้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าสถานที่ภายในห้างสรรพสินค้าบริเวณชั้น…………เนื้อที่…………ตารางเมตร หมายเลขที่……………..มีกำหนด………….ปี………..เดือน ตั้งแต่วันที่………………ถึงวันที่……………..ณ ห้างสรรพสินค้า……………………… ตั้งอยู่เขต…………….จังหวัด…………….ในอัตราค่าเช่าเดือนละ……………บาท (……………………) โดยในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้เช่าได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าเป็นระยะเวลา ………………….เดือน เป็นเงินจำนวน…………………….บาท (…………………)ให้แก่ผู้ให้เช่า และต่อไปจะชำระทุกวันที่…………………..ของเดือน ณ  สำนักงานของผู้ให้เช่า
ข้อ 2.  ผู้เช่าต้องชำระค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าที่ใช้ในกิจการร้านค้าของผู้เช่าตามจำนวนที่ปรากฏในมาตรวัน และต้องชำระค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่า ยามรักษาการณ์ ค่าเก็บขยะ เป็นต้น โดยผู้เช่าตกลงจะชำระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทุกวันที่…………………ของเดือน
ข้อ 3.  ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่ามีอำนาจในการควบคุมดูแลการดำเนินกิจการของผู้เช่าให้เป็นไปตามสัญญา ควบคุมด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะทั่วไป และอื่นๆ (ถ้ามี) เพื่อให้การดำเนินกิจการของผู้เช่าเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับกิจการอื่นๆ ที่ผู้ให้เช่าเปิดบริการไว้
ข้อ 4.  ผู้เช่าต้องสงวนรักษาทรัพย์สินที่เช่านั้นเสมอกับวิญญูชนจะพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตนและต้องบำรุงรักษาทั้งทำการซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
ข้อ 5.  ผู้เช่าจะไม่ทำการแก้ไข  เพิ่มเติม  ดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่า  เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า  บรรดาทรัพย์สินใด ที่ผู้เช่าได้ทำการแก้ไข  เพิ่มเติม  ดังแปลงไปนั้น  ผู้เช่ายินยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าในทันทีที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง และผู้เช่าจะไม่เรียกร้องเอาค่าใช้จ่ายและค่าตอบแทนใดๆ  ทั้งสิ้น  ทั้งนี้  หากผู้ให้เช่าไม่ต้องการทรัพย์สินดังกล่าวผู้เช่าจะดำเนินการรื้อถอน  ซ่อมแซมต่อไปให้ทรัพย์สินที่เช่าอยู่ในสภาพเดิมโดยผู้เช่าต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ข้อ 6.  ผู้เช่าไม่มีสิทธิที่จะนำเอาทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญานี้ออกให้เช่าช่วงไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือก่อนแล้ว
ข้อ 7.  หากผู้เช่าประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนดตามสัญญาฉบับนี้แล้ว ผู้เช่าต้องแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า………….วัน
ข้อ 8.  ผู้เช่าต้องรับผิดชอบในบรรดาความเสียหาย สูญหาย หรือบุบสลายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญาฉบับนี้อันเกิดจากการกระทำของผู้เช่า หรือคนงาน หรือบริวารของผู้เช่า และผู้เช่าต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้ให้เช่าและจัดการซ่อมแซมให้สามารถใช้ได้ดีดังเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ภายในเวลาที่ผู้ให้เช่าจะกำหนดต่อไป
ข้อ 9.  ในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้เช่าได้นำ
•  ………………………………………………เป็นผู้ค้ำประกัน
•   หลักทรัพย์ประเภทหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร/เงินสดจำนวน…………บาท (………………….) ให้ไว้แก่ผู้ให้เช่าเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญา ถ้าผู้เช่าไม่ชำระหนี้ตามสัญญา ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญา หรือเรียกเอากับผู้ค้ำประกันเหมือนอย่างเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้เช่าตามสัญญาฉบับนี้ได้ทันทีเช่นกัน
ข้อ 10.  เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากทรัพย์สินที่เช่า และส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืนแก่ผู้ให้เช่าในสภาพที่เรียบร้อยภายในกำหนด……………..วัน นับแต่วันที่ทำสัญญาเช่าสิ้นสุดลง
หากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามความดังกล่าวข้างต้น  ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าจัดการหรือจ้างให้ผู้อื่นจัดการแทน  ทั้งนี้  โดยผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายอันพึงมีแทนผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเป็นสำคัญ  และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า     ลงชื่อ……………………………………ผู้เช่า
        (…………..…………………………)                 (………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน      ลงชื่อ……………………………………พยาน
        (………………………………….…)                  (………………………………………)

สัญญาเช่าทรัพย์สิน

สัญญาเช่าทรัพย์สิน
                  สัญญานี้ทำที่…………………………เมื่อวันที่……………เดือน……………..
พ.ศ……………… ระหว่าง………………………..ซึ่งต่อไปในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง
กับ……………………………………………………………………………………………………..
….……………………………………………………………………………………………………..
….……………………………………………………………………………………………………..
อยู่บ้านเลขที่…………ซอย………………….ถนน……………………..แขวง………………………
เขต…………………..จังหวัด…………………… ซึ่งต่อไปในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง
        คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากัน  โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดดังต่อไปนี้
        ข้อ 1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าทรัพย์สินคือ…………………………………….……………………………………………………………………
 ...………………………………..….………………………………………………………………………
………..….………………………………………………………………………………………………..
เพื่อประโยชน์ในการ…………………………………………………………………………………..
        ข้อ 2.  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเช่าทรัพย์สินตามข้อ 1. มีกำหนด………..ปี นับตั้งแต่วันที่
…………เดือน…………….พ.ศ………ถึงวันที่……..เดือน……………… พ.ศ. ………….
        ข้อ 3.  ผู้เช่าตกลงชำระเงินดังกล่าวต่อไปนี้ให้ผู้ให้เช่าล่วงหน้าเป็นรายเดือนโดยชำระภายใน
วันที่ 2 ของแต่ละเดือน
             (1)  ค่าเช่าจำนวน……………….บาท
             (2)  ค่าเครื่องทำความเย็น จำนวน……………..บาท
        รวมเป็นเงินทั้งสิ้น………………บาท (………………………………)
        ผู้เช่าจะต้องวางเงินเป็นประกันการชำระค่าเช่า……………….เดือน จำนวน………………
………………และเป็นประกันค่าใช้โทรศัพท์……………………..บาท โดยวางเงินประกันหมายเลข
ละ……………………..บาท เงินทั้งสองรายการนี้ผู้ให้เช่าจะคืนให้เมื่อผู้เช่ามิได้ผิดสัญญาและมิได้ค้างชำระเงินต่าง ๆ ตามสัญญานี้
        การชำระเงินตามข้อ 3 (1) และ (2) นั้น ผู้เช่าจะต้องนำไปชำระให้กับผู้ให้เช่า ณ ที่ทำการของผู้ให้เช่าภายในวันที่ 5 ของทุก ๆ เดือน
        อนึ่ง ผู้ให้เช่าจะส่งพนักงานของผู้ให้เช่าไปเก็บเงินดังกล่าว ณ ที่ทำการหรือสถานที่ของผู้เช่าก็ได้  แต่การนี้ไม่ลบล้างหน้าที่ของผู้เช่าตามวรรคสาม
        สำหรับค่ากระแสไฟฟ้าและค่าโทรศัพท์นั้น  ผู้เช่าจะต้องเสียเองตามจำนวนที่แจ้งในเครื่องวัด  โดยฝ่ายผู้ให้เช่าจะเป็นผู้ไปเก็บจากผู้เช่าในแต่ละเดือน
        ข้อ 4.  ทรัพย์สินที่เช่าตามข้อ 1. ผู้เช่าจะนำไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงหรือยินยอมไม่ว่าโดยตรงหรือโดยปริยายให้ผู้อื่นใช้ หรือได้รับประโยชน์หรือโอนสิทธิของตนที่มีอยู่ตามสัญญานี้ให้ผู้อื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วนนั้นไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือ
        ข้อ 5.  ในวันทำสัญญานี้ ผู้ให้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้กับผู้เช่าแล้ว และผู้เช่าได้ตรวจดูแล้วเห็นว่าอยู่ในสภาพปกติที่ผู้เช่าจะได้ใช้ หรือได้รับประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แห่งการเช่านี้ทุกประการ อนึ่ง ผู้ให้เช่าไม่ต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องและรอนสิทธิ
        ข้อ 6.  ผู้เช่าต้องจัดการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าให้อยู่ในสภาพปกติตลอดไป บรรดาทรัพย์สินหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ที่ผู้เช่าหรือบุคคลอื่นใดนำมาติดตั้ง ตรึงตรากับทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าจะรื้อถอนหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใดทำการรื้อถอนโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่ามิได้
        ข้อ 7.  ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าจะเข้าตรวจดูทรัพย์สินที่เช่าเป็นครั้งคราวในเวลาและระยะอันสมควรก็ได้ ถ้าผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่าเห็นว่าทรัพย์สินที่เช่าหรืออุปกรณ์เครื่องใช้หรือทรัพย์สินอื่นใดที่ติดอยู่กับทรัพย์สินที่ให้เช่าอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทร และหรือจะเป็นอันตรายเสียหาย  ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนจะแจ้งให้ผู้เช่าทำการแก้ไขหรือซ่อมแซมด้วยทุนทรัพย์ของผู้เช่าเอง  ซึ่งผู้เช่าจะต้องรีบดำเนินการโดยพลัน หากละเลยหน้าที่ตามข้อนี้และเกิดความเสียหายขึ้น ผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบแม้ในผลต่อเนื่องอันเกิดจากการละเลยนี้ด้วย
        ข้อ 8.  ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 1. แห่งสัญญานี้มิได้
        ข้อ 9.  ถ้าในระหว่างอายุแห่งการเช่าตามสัญญานี้และมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง หรือซ่อมแซมใหญ่ทรัพย์สินที่เช่า และผู้ให้เช่าประสงค์จะทำการเช่นว่านี้ ผู้เช่าจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นไม่ได้ ถึงแม้ว่าการนั้นจะเป็นการไม่สะดวกแก่ตนก็ตาม ถ้าการซ่อมแซมเป็นสภาพซึ่งต้องกินเวลานานเกินกว่า 3 เดือน ผู้เช่าจะเลิกสัญญาก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายใด ๆ
        ข้อ 10. ถ้าทรัพย์สินที่เช่านั้นชำรุดบกพร่องหรืออยู่ในสภาพที่น่าจะเกิดความเสียหายหรือเป็นอันตราย หรือมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดที่วิญญูชนทั่วไปเห็นว่าน่าจะต้องจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อปัดป้องภยันตรายใด ๆ อันจะเกิดมีขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าก็ดี หรือมีขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าก็ดี หรือมีบุคคลภายนอกรุกล้ำเข้ามาในหรือบริเวณทรัพย์สิน หรือเรียกร้องอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งเหนือทรัพย์สินที่เช่าก็ดี หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดน่าจะไม่ใช่ตัวแทนของผู้เช่าในการติดต่อกับผู้เช่าเกี่ยวด้วยการปฏิบัติการตามสัญญานี้ก็ดี  ผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบโดยพลัน แต่ไม่เกิน 12 ชั่วโมง  เว้นแต่ผู้ให้เช่าจะได้รับทราบถึงเหตุดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว
        ข้อ 11.  ผู้เช่าจะทำการดัดแปลง ต่อเติม รื้อถอนทรัพย์สินที่เช่าเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าหาได้ไม่ ถ้าผู้เช่าจะทำการโดยมิได้รับคำยินยอมเช่นว่านี้ ผู้ให้เช่าจะเรียกให้ผู้เช่าทำทรัพย์สินที่เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมและให้ผู้เช่ารับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากความสูญหายหรือบุบสลายอันเนื่องมาจากการดัดแปลงต่อเติมหรือรื้อถอนนี้ก็ได้ด้วย
        ข้อ 12.  ผู้เช่าจะต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าเพราะความผิดของผู้เช่าหรือบุคคลซึ่งอยู่กับผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงหรือบุคคลอื่นใดที่มิใช่บุคคลที่เป็นฝ่ายผู้ให้เช่า
        ข้อ 13.  เพื่อบริการให้ความสะดวกต่อผู้เช่า ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงกันดังนี้
    (1)  ผู้ให้เช่าจะเปิดเครื่องทำความเย็นสำหรับวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 17.00 น. และสำหรับวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 12.00 น.  ทั้งนี้ยกเว้นวันหยุดราชการและวันอาทิตย์ ซึ่งผู้ให้เช่าจะไม่เปิดเครื่องทำความเย็น  อนึ่งถ้าผู้เช่าต้องการที่จะใช้ความเย็นนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้นี้แล้ว  ผู้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อที่ผู้ให้เช่าจะได้จัดการให้ตามสมควร  ซึ่งผู้เช่าจะต้องเสียค่ากระแสไฟฟ้าในส่วนที่เพิ่มอันเนื่องมาจากการนี้ตามจำนวนเงินที่ผู้ให้เช่ากำหนด
    (2)  สำหรับที่จอดรถยนต์ของผู้เช่า ผู้ให้เช่าจะจัดให้ผู้เช่าจอดรถในบริเวณที่จอดรถของอาคารตามเนื้อที่ และหรือจำนวนรถยนต์ที่ผู้ให้เช่ากำหนด อนึ่งผู้ให้เช่าจะไม่รับผิดชอบหรือดูแลรถยนต์หรือทรัพย์สินอื่นใดของผู้เช่าที่นำมาจอดหรือนำมาไว้ ณ ที่ดังกล่าว
    ข้อ 14.  ผู้เช่าจะต้องสงวนรักษาทรัพย์สินที่เช่าเสมอด้วยวิญญูชนจะสงวนรักษาทรัพย์สินของตนเอง และจะต้องการรักษาความสะอาดตามปกติวิสัยและเทศบัญญัติเพื่อไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนรำคาญและเสื่อมสภาพแก่ผู้อยู่ใกล้เคียง อีกทั้งต้องไม่กระทำการใด ๆ อันจะเป็นเหตุให้เดือดร้อนหรือรำคาญหรือเสื่อมสุขภาพแก่ผู้อยู่ข้างเคียงด้วย
        ข้อ 15.  ผู้เช่าจะต้องไม่ละทิ้งทรัพย์สินที่เช่าไว้โดยปราศจากความครอบครองดูแลของผู้เช่า หรือบริวารอันแท้จริงของผู้เช่า ไม่ว่าเวลาใด ๆ และในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินและจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เช่าจำต้องละทิ้งทรัพย์สินที่เช่าไป ผู้เช่าจะต้องรีบแจ้งให้ผู้เช่าทราบโดยพลันแต่มิให้เกิน 24 ชั่วโมง นับแต่ได้ละทิ้งไป ในกรณีที่ผู้เช่าละทิ้งทรัพย์สินที่เช่าดังกล่าวในวรรคแรกติดต่อกันเป็นเวลากว่า 7 วัน โดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้องหรือจำเป็นให้ผู้ให้เช่าทราบ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายให้ถือโดยปริยายว่าสัญญาเช่าฉบับนี้เป็นอันยกเลิกไปโดยทันที
        ถ้าผู้เช่าถูกพิทักษ์ทรัพย์ ล้มละลาย หรือกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ  ให้ถือว่าสัญญานี้เป็นอันยกเลิกโดยทันที
        ข้อ 16.  ในระหว่างการเช่า ถ้าผู้เช่าเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลต่อมาประสงค์จะทำการค้า โดยจัดตั้งหรือเป็นผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนในบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือคณะบุคคล เพื่อประกอบธุรกิจการค้าในทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือ
        ข้อ 17.  ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้เช่าจะใช้สิทธิต่อไปนี้แต่เพียงข้อหนึ่งข้อใดหรือรวมกันหรือทั้งหมดก็ได้
        (1)  บอกเลิกสัญญา
        (2)  เรียกค่าเสียหาย
        (3)  บอกกล่าวให้ปฏิบัติตามสัญญาภายในกำหนดที่ผู้ให้เช่าเห็นสมควร
        (4)  งดการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและแอร์และโทรศัพท์ ได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว
ล่วงหน้า
        บรรดาคำบอกกล่าวใด ๆ ซึ่งผู้ให้เช่าจะพึงส่งแก่ผู้เช่านั้น  ถ้าได้ส่งให้แก่บุคคลที่ปรากฏตัวอยู่ในสถานที่เช่าเป็นอาจิณ โดยผู้นั้นจะเป็นคนในครอบครัวของผู้เช่าหรือลูกจ้างหรือบริวารของผู้เช่าหรือเกี่ยวกับการงานของผู้เช่าอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดีหรือว่าได้ทิ้งหรือปิดไว้ได้เปิดเผย ณ สถานที่เช่าแล้วก็ดี  ผู้เช่ายอมให้ถือว่าเป็นการส่งแก่ผู้เช่าโดยชอบแล้วตั้งแต่ที่ได้ส่ง หรือทิ้งไว้ หรือได้ปิดไว้นั้น
        ข้อ 18.  ในกรณีที่ผู้เช่าผิดนัดชำระค่าเช่า ผู้เช่าจะต้องรับผิดชดใช้ค่าปรับวันละ………..บาท
หรือดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีจากต้นเงินที่ค้างชำระนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่ผู้ให้เช่า  สิทธิตามข้อนี้แล้วแต่ผู้ให้เช่าจะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
        ข้อ 19.  ในกรณีที่ผู้เช่าจะต้องเสียค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่า ซึ่งนอกจากจะชำระเต็มจำนวนแล้ว ผู้เช่ายังจะต้องชดใช้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีจากยอดเงินค่าเสียหายทั้งหมดนับแต่วันที่ต้องรับผิด จนกว่าจะชำระเสร็จพร้อมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ผู้ให้เช่าต้องเสียไปเพื่อการนี้
        ข้อ 20.  ในกรณีที่สัญญานี้ต้องเลิกกันไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารแล้วส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าส่งคืนให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพปกติที่ผู้ให้เช่าจะใช้ประโยชน์ได้ทันที ทั้งนี้ไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่สัญญาต้องเลิกกัน หากพ้นกำหนดนี้แล้วถ้าผู้เช่าไม่ขนย้ายทรัพย์สินและบริวาร ไม่ส่งมอบหรือไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ที่เช่าคืนให้แก่ผู้ให้เช่า ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุใดที่ไม่ใช่ความผิดฝ่ายผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าในอัตราวันละ………..บาท
จนกว่าจะจัดการให้มีการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพปกติที่ผู้ให้เช่าจะใช้ประโยชน์ได้  และถ้าผู้เช่าไม่จัดการดังกล่าวนี้ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่สัญญาเลิกกัน ผู้ให้เช่าจะจัดการเองก็ได้โดยผู้เช่าต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ผู้ให้เช่าต้องเสียไปอีกโสดหนึ่ง นอกจากค่าปรับดังกล่าวข้างต้นด้วย
   ข้อ 21.  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า นอกจากที่ปรากฏรายละเอียดและเงื่อนไขในสัญญานี้แล้ว มิได้มีการตกลงหรือมีเงื่อนไขอื่นใดด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรนอกเหนือไปจากนี้แล้ว ไม่ว่าจะมีมาก่อนหรือภายหลังสัญญานี้ การแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมข้อความในสัญญานี้จะทำได้ต่อเมื่อคู่สัญญาทั้งฝ่ายได้ลงลายมือชื่อ และได้ระบุไว้ในต้นฉบับแห่งสัญญานี้ที่ผู้ให้เช่าเก็บไว้ว่าได้มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมข้อความแห่งสัญญานี้แล้ว ปรากฏข้อความตามเอกสารที่ระบุ

        คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้เข้าใจข้อความแห่งสัญญานี้ทั้งหมดแล้ว  เห็นว่าถูกต้องตรงตาม
เจตนาแห่งตน  จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน


ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า    ลงชื่อ………………………………..ผู้เช่า
     (…………………………………………)                   (…………………………………..)

ลงชื่อ………………………………………พยาน       ลงชื่อ………………………………..พยาน
     (…………………………………………)                   (…………………………………..)

สัญญาเช่าตึกแถว

สัญญาเช่าตึกแถว
                
    ทำที่………………………………………..
    วันที่………..………………….…………………
                      สัญญาเช่าฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง……………………………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง กับ………………………………………………….
อยู่บ้านเลขที่……………ซอย……………ถนน…………………………แขวง……………………...เขต…………………….จังหวัด…………..……….ถือบัตรประจำตัวเลขที่……………………….
ออกให้ ณ…………………………………….เมื่อวันที่………………………………..ซึ่งต่อไปในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันโดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1.  ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าตึกแถวจำนวน……………………………ห้อง คือ ห้องเลขที่…………….ถนน……………………….แขวง…………………….เขต………………….…จังหวัดเพื่อเป็นประโยชน์ในการ……………………………………………………………
ข้อ 2.  ผู้เช่าตกลงชำระเงินค่าเช่าให้ผู้ให้เช่าเป็นรายเดือน โดยกำหนดชำระภายในวันที่ 5 ของแต่ละเดือน ทุกเดือน ในอัตราค่าเช่าเดือนละ………………บาท และจะเพิ่มค่าเช่าในอัตราเดือนละ…………บาท ทุกๆ ………………ปี แห่งระยะเวลาการเช่า
ข้อ 3   การชำระค่าเช่านั้น ผู้เช่าจะต้องนำเงินค่าเช่าไปชำระกับผู้ให้เช่า ณ ภูมิลำเนาของผู้ให้เช่า และการที่ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนผู้ให้เช่าไปเก็บเงินค่าเช่ากับผู้เช่า ย่อมไม่ลบล้างหน้าที่ของผู้เช่าดังกล่าว
ข้อ 4.  ผู้เช่าจะใช้ทรัพย์ที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อ 1 แห่งสัญญานี้โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า แต่จะใช้ทรัพย์สินที่เช่าเพื่อการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ได้
ข้อ 5 ผู้เช่าต้องรักษาดูแลทรัพย์สินที่เช่าเสมือนทรัพย์ของตนเองและต้องรักษาความสะอาดตลอดจนความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายทุกประการ
ข้อ 6.  ในกรณีที่ผู้เช่าจะนำทรัพย์สินที่เช่าไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงโดยได้รับความยินยอม จากผู้ให้เช่าแล้ว ผู้เช่ายอมเสียค่าตอบแทนในการโอนสิทธิการเช่านั้นให้แก่ผู้เช่า เป็นจำนวนเงิน …………...บาท (…………….)
ข้อ 7.  ผู้เช่าจะดัดแปลงต่อเติมเปลี่ยนแปลงหรือรื้อถอนทรัพย์สินที่เช่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้โดยต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า
ข้อ 8.  ผู้เช่าต้องรับผิดในบรรดาความเสียหายหรือบุบสลายใดๆ อันเกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เช่าเพราะความผิดของผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงหรือบุคคลซึ่งอยู่กับผู้เช่า
ข้อ 9.  ผู้เช่าจะให้ความสะดวกแก่ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนผู้ให้เช่าในการตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าพอสมควร
ข้อ 10.  ผู้ให้เช่าจะใช้สิทธิบอกกล่าวให้ผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญานี้ หรือบอกเลิกสัญญาหรือเรียกค่าเสียหายกับผู้เช่าได้เมื่อผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดตามสัญญานี้
ข้อ 11.  การเช่าตามสัญญานี้ย่อมสิ้นสุดลงก่อนครบกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเมื่อปรากฏว่าทรัพย์สินที่เช่าพินาศโดยสิ้นเชิงหรือเป็นส่วนใหญ่เพราะอัคคีภัยอื่นใด
ข้อ 12.  ผู้เช่ายอมชดใช้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของยอดเงินค่าเช่าที่ค้างชำระผู้ให้เช่าและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผู้ให้เช่าต้องเสียไปเพื่อการทวงถามให้ชำระเงินค่าเช่าอีกด้วย
ข้อ 13.  คู่สัญญาตกลงให้สัญญานี้เลิกกัน เมื่อผู้เช่าถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือล้มละลายตามกฎหมาย
ข้อ 14.  ผู้เช่าต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารของผู้เช่าและส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืนให้แก่ผู้ให้เช่าในสภาพปกติทันทีเมื่อสัญญานี้สิ้นสุดลงหรือเลิกกัน หากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามความในข้อนี้ผู้เช่ายอมชดใช้ค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าในอัตราวันละ………………………….บาท (…………………………….) นับแต่วันที่สัญญาเช่านี้เลิกกันหรือสัญญาเช่านี้สิ้นสุดลง จนกว่าจะมีการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่า คืนให้แก่ผู้ให้เช่าแล้ว
ข้อ 15.  ในกรณีที่ผู้ให้เช่าเอาทรัพย์สินที่เช่าประกันภัยไว้ในนามผู้ให้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าได้จ่ายเบี้ยประกันทรัพย์สินที่เช่าไปเป็นเงินจำนวนเท่าใด ผู้เช่าตกลงจ่ายดอกเบี้ยประกันภัยหรือทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นจำนวนเท่านั้น ในอัตราความเป็นจริงแต่ไม่เกินเดือนละ…………..บาท (……………..)
ข้อ 16.  ผู้เช่าเป็นผู้ชำระค่าภาษีโรงเรือนและค่าภาษีที่ดินแทนผู้ให้เช่า
ข้อ 17.  ในวันทำสัญญานาผู้เช่าได้ตรวจตราทรัพย์สินที่เช่าแล้วเห็นว่ามีสภาพปกติดีและผู้เช่าได้ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้เช่าแล้ว คู่สัญญาเห็นว่าถูกต้องตามเจตนาแห่งตนและทั้งสองฝ่ายเข้าใจ          ข้อความแห่งสัญญานี้ทั้งหมดดีแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานสำคัญต่อหน้าพยาน และต่างฝ่ายต่าง        ยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

    ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า
            (…………..…………………………)

    ลงชื่อ…………………………………………ผู้เช่า
                                                                           (…………..…………………………) 

    ลงชื่อ…………………………………………พยาน
                                                                   (…………..…………………………) 

    ลงชื่อ…………………………………………พยาน
                                                                   (…………..…………………………)

สัญญาเช่าซื้อรถยนต์

สัญญาเช่าซื้อรถยนต์
        สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่………………………………………………………………………. สำนักงานเลขที่…………………ระหว่างบริษัท……………….จำกัด  โดย……………กรรมการ
ผู้มีอำนาจอยู่เลขที่……………….………………………………………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้
จะเรียกว่า “เจ้าของ” ฝ่ายหนึ่ง กับ……………..อยู่เลขที่………………. ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า
“ผู้เช่าซื้อ” อีกฝ่ายหนึ่ง
        ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
        ข้อ 1.  ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ
        เจ้าของตกลงให้เช่าซื้อ  ผู้เช่าซื้อตกลงและได้รับมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปจากเจ้าของแล้วในวันทำสัญญานี้ในสภาพเรียบร้อย ถูกต้องครบถ้วน และได้ตรวจดูเป็นที่พอใจแล้ว  คือ
        ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ……………………………………………………..หมายเลขประจำเครื่อง
        เครื่องหมาย……………………………………….. ยี่ห้อ……………………………………
        แบบ…………………….. ชนิด………………………. ลักษณะ……………………………
        สี………………………………………………………………………………………………
        ซึ่งมีส่วนประกอบและเครื่องอุปกรณ์ด้วย  คือ
        (1)  …………………………………………………………………………………………….
        (2)  …………………………………………………………………………………………….
        ข้อ 2.  การชำระค่าเช่าซื้อและการวางเงินล่วงหน้า
        ทรัพย์สินที่เช่าซื้อตามข้อ 1.  ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะชำระค่าเช่าซื้อให้เจ้าของในวันทำสัญญานี้เป็นเงิน…………………….บาท (…………………………………….) และต่อไปจะนำเงินงวดไปชำระ
ณ สถานที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของเจ้าของ  ในกรณีเจ้าของส่งตัวแทนไปชำระก็ให้ถือว่าเป็นเพียงการให้ความสะดวกแก่ผู้เช่าซื้อเท่านั้น  มิใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานที่ชำระเงิน
        จำนวนเงินงวดที่จะต้องชำระต่อไปผู้เช่าซื้อจะชำระงวดละ………………..บาท (………….………) รวม…………….งวด เป็นเงิน……………….บาท (………….……) เริ่มชำระงวดแรกวันที่……………………………….. งวดต่อไปชำระทุกวันที่……….ของเดือนถัดไปจนกว่าจะครบตามตารางรายการกำหนดชำระเงินต่อไปนี้

     อันดับ                    งวด                                  วันที่ชำระ                            จำนวนเงิน
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
……………    ……………………    ……………………………….    …………………….
รวมเป็นเงินที่ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระทั้งสิ้น…………………….บาท (………………………………….)
        ข้อ 3.  การใช้ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ
        ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะนำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปใช้  ณ เลขที่………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………….
และจะไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือทำให้ลบเลือนซึ่งเลขหมายประจำเครื่องหรือเครื่องหมายอื่น ๆ ของทรัพย์สินที่เช่าซื้อ  นอกจากนี้จะใช้สอยทรัพย์สินที่เช่าซื้อด้วยความระมัดระวังอย่างดีที่สุดจะครอบครองดูแล เก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย จะบำรุงรักษา ซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ใช้การได้ดีอยู่เสมอและยอมให้เจ้าของหรือผู้แทนเข้าตรวจได้เสมอ  โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้สอย การเก็บ การบำรุงรักษา เช่น ค่าน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิง ค่ายางรถยนต์ ค่าเช่าที่เก็บรักษา ค่าไฟฟ้า ค่าธรรมเนียม ค่าภาษีอากร ค่าปรับ ค่าซ่อมแซมความชำรุดจะมากน้อยเท่าใดก็ดี  ผู้เช่าซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหรืออกแต่ฝ่ายเดียว
        ข้อ 4.  กรรมสิทธิ์ยังเป็นของเจ้าของ
        ในระหว่างเช่าซื้อตามสัญญานี้ เจ้าของยังเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปจำหน่าย จำนำ ให้เช่า ให้ยืม หรือให้ผู้อื่นครอบครองหรือใช้หรือนำไปไว้ที่อื่นนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น และจะไม่นำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย  มิฉะนั้นเจ้าของมีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีไม่ว่าทางแพ่งและทางอาญา  รวมทั้งเรียกค่าเสียหายได้ทันที
        ข้อ 5.  กรณีเกิดวินาศภัยแก่ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ
         ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย อัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย ชำรุด บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด ถูกยึด หรือถูกริบ  ไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใดก็ตาม  ผู้เช่าซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดฝ่ายเดียวและจำต้องแจ้งให้เจ้าของทราบทันที และผู้เช่าซื้อตกลงว่าจะยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน ยอมชดใช้ ยอมซ่อมแซมให้คืนสภาพ
เดิม และยอมชำระเงินค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ  แต่หากเจ้าของได้ออกเงินไปเพื่อการดังกล่าว  ผู้เช่าซื้อก็ยอมชดใช้ให้แก่เจ้าของด้วย
        ข้อ 6.  ความรับผิดกรณีดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่าซื้อ
        ถ้าผู้เช่าซื้อทำการดัดแปลง ต่อเติมทรัพย์สินที่เช่าซื้อ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าของ  เมื่อเจ้าของเรียกร้อง ผู้เช่าซื้อยินยอมทำให้ทรัพย์สินนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม และยอมรับผิดในความสูญหาย เสียหาย ชำรุด บุบสลายอันเกิดแต่การนั้น  และไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมให้สิ่งที่นำเข้ามาดัดแปลง ต่อเติม ติดหรือตั้งอยู่ในตัวทรัพย์สินที่เช่าซื้อนี้ ตกเป็นส่วนหนึ่งของตัวทรัพย์สินที่เช่าซื้อและเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของด้วย  โดยผู้เช่าซื้อจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายและสิ่งของนั้น ๆ จากเจ้าของ  และถ้าการดัดแปลง ต่อเติม หรือติดตั้งนั้นเป็นเหตุให้ต้องถูกเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น  ผู้เช่าซื้อยอมชำระภาษีนั้นโดยตรงฝ่ายเดียว  และถ้าเจ้าของได้ชำระไปเท่าใดผู้เช่าซื้อยินยอมชดใช้คืนให้จนครบ
        ข้อ 7.  การเสียดอกเบี้ยกรณีผิดนัด
        ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดหรือผู้เช่าซื้อต้องชำระเงินใด ๆ แก่เจ้าของตามสัญญาไม่ว่าประการหนึ่งประการใด หรือผู้เช่าซื้อจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาไม่ว่ากรณีใดผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ค้างชำระและหรือค่าเสียหายนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และยอมเสียค่าติดตาม ทวงถามเรียกเก็บนั้น ให้แก่เจ้าของอีกโสดหนึ่งด้วย
        ข้อ 8.  กรณีผู้เช่าซื้อผิดนัด
        ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดก็ดี กระทำผิดสัญญาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี หรือทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกอายัด ถูกยึด ถูกริบไม่ว่าโดยเหตุใดก็ดี  ผู้เช่าซื้อถูกพิทักษ์ทรัพย์ก็ดีไม่ว่าเจ้าของจะได้ใช้ทางแก้อย่างหนึ่งอย่างใดแล้วหรือไม่ก็ตาม  ผู้เช่าซื้อยอมให้เจ้าของใช้ทางแก้ตามความในข้อนี้อีกโสดหนึ่งด้วย  กล่าวคือยอมให้ถือว่าสัญญานี้เลิกกันโดยเจ้าของไม่ต้องบอกกล่าวก่อน และยอมให้เจ้าของริบเงินค่าเช่าซื้อที่ได้ชำระแล้วทั้งสิ้นเป็นของเจ้าของ โดยผู้เช่าซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องคืน และผู้เช่าซื้อยอมส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนให้เจ้าของโดยพลันในสภาพที่ซ่อมแซมดีแล้ว โดยเรียบร้อย ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อเอง  ถ้าไม่ส่งมอบคืนก็ให้ถือว่าครอบครองไว้โดยมิชอบ  และเจ้าของหรือผู้แทนมีสิทธิติดตามเข้าไปในที่ซึ่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อนั้นตั้งอยู่ เพื่อเข้ายึดถือครอบครองเอาคืนไปได้เอง โดยผู้เช่าซื้อยินยอม ไม่โต้แย้งขัดขวาง ไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ  และยินยอมใช้ค่าพาหนะ ค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม ค่าทนายความที่ต้องเสียไปในการสืบสวน ติดตาม ยึดถือ ครอบครอง ฟ้องร้อง เอาคืนและซ่อมแซมนั้นคืนแก่เจ้าของจนครบ  และผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินค่าเช่าซื้อหรือใช้ค่าเสียหายที่เจ้าของต้องขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากทรัพย์สินที่ผู้เช่าซื้อไม่ส่งคืนคันทีตามข้อนี้อย่างหนึ่งอย่างใดตามแต่เจ้าของจะเลือก  ทั้งนี้ จนกว่าผู้เช่าซื้อจะลงลายมือชื่อทำบันทึกยอมคืนและส่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อมอบคืนแก่เจ้าของแล้ว  และถ้าวันบันทึกส่งมอบอยู่ระหว่างยังไม่ครบงวดการชำระงวดใด  ผู้เช่าซื้อยอมชำระงวดนั้นเต็มจำนวน  ในกรณีที่เจ้าของหรือผู้แทนติดตามยึดถือ ครอบครอง เอาคืนซึ่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อดังกล่าวนั้น  ผู้เช่ายอมให้ถือว่าบรรดาทรัพย์สินที่เอาเข้ามารวมกัน ติดไว้ที่ หรือตั้งอยู่ในตัวทรัพย์สินที่เช่าซื้อเป็นส่วนหนึ่งของตัวทรัพย์สินที่เช่าซื้อ  ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของด้วย
        ข้อ 9.  สิทธิของเจ้าของเมื่อยึดทรัพย์สินคืน
        เมื่อเจ้าของยึดทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนมาได้แล้ว  เจ้าของอาจจะเลือกใช้สิทธิที่จะนำทรัพย์สินที่เช่าซื้อออกขายโดยเปิดเผยกับบุคคลใดเป็นราย ๆ ไป หรือโดยวิธีการประมูล หรือโดยวิธีการขายททอดตลาดตามราคาที่เจ้าของเห็นสมควร  โดยเจ้าของมิจำต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าซื้อทราบ  จำนวนเงินที่ขายได้หากมีการซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าซื้อก่อนขาย  ให้เจ้าของจองหักเงินค่าซ่อมแซมออกจากราคาที่ขายได้ เหลือเท่าใดให้นำไปชำระราคาค่าเช่าซื้อที่ยังคงค้างอยู่ รวมทั้งค่าภาษีหากจะพึงมีกับค่าใช้จ่ายอื่นที่ผู้เช่าซื้อมีหน้าที่จะต้องชำระตามสัญญานี้  และผู้เช่าซื้อสัญญาว่าหากราคาทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ซึ่งได้ขายไปไม่พอชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว  ผู้เช่าซื้อยอมชำระเงินจำนวนที่ยังขาดอยู่อีกให้แก่เจ้าของจนครบ  แต่ถ้ายังมีเงินเหลืออยู่จากการขายเมื่อชำระหนี้ให้กับเจ้าของจนครบถ้วนดังกล่าวแล้ว  เจ้าของจะคืนเงินจำนวนที่เหลือให้กับผู้เช่าซื้อ ทั้งนี้โดยเจ้าของจะแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบเป็นลายลักษณ์อักษร  และผู้เช่าซื้อจะต้องมารับเงินจากเจ้าของตามกำหนดเวลาที่ได้แจ้งไป
        ข้อ 10.  กรณีเจ้าของผ่อนผัน
        ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดผิดสัญญาหลายครั้ง  หากเจ้าของยอมผ่อนผันการผิดนัดหรือผิดสัญญาครั้งใด อย่างใด  ก็ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนผันการผิดนัดหรือผิดสัญญาครั้งอื่น
        ข้อ 11.  การโอนกรรมสิทธิ์
        เมื่อผู้เช่าซื้อได้ชำระหนี้ใด ๆ ตามสัญญานี้แก่เจ้าของครบถ้วนถูกต้องทุกประการแล้ว  เจ้าของจะได้ทำหนังสือรับรองให้และจัดโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้แก่ผู้เช่าซื้อต่อไป
        ข้อ 12.  กรณีส่งคำบอกกล่าว
        การส่งคำบอกกล่าวที่จะต้องส่งให้แก่กัน  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายให้ส่ง ณ ที่อยู่ตามภูมิลำเนาที่ระบุไว้ข้างต้นของสัญญานี้  โดยการส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือโดยการนำไปปิดไว้ในกรณีที่ส่งไม่ได้หรือย้ายที่อยู่โดยฝ่ายที่ย้ายไม่แจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ  ซึ่งให้ถือว่าได้รับในวันที่ไปรษณีย์ไปถึง หรือวันที่มีการปิดหมาย
        สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาต่างได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยตลอดดีแล้ว  จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน

ลงชื่อ…………………………………….. ผู้เช่าซื้อ            ลงชื่อ……………………………..เจ้าของ
      (…………………………………………)                (……………………………………)

ลงชื่อ………………………………….. พยาน                ลงชื่อ…………………………..พยาน
      (…………………………………………)                (……………………………………)

สัญญาเช่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

สัญญาเช่าซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

ทำที่……………………………….
วันที่………………..เดือน…………………..พ.ศ. …………….

สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………อายุ……………ปี อยู่บ้านเลขที่…….….…… 
ตรอก/ซอย …………………………..ถนน…………………ตำบล/แขวง………………………………
อำเภอ/เขต…………………… จังหวัด…………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า   “ผู้ให้เช่าซื้อ”   ฝ่ายหนึ่ง   กับ…………………….อายุ…….…ปี อยู่บ้านเลขที่…………………….ตรอก/ซอย……….…   ถนน …………………ตำบล/แขวง…………….……อำเภอ/เขต……………...จังหวัด………………….
ซึ่งต่อไปในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้เช่าซื้อ”   อีกฝ่ายหนึ่ง 
คู่สัญญาตกลงทำการเช่าซื้อที่ดินโฉนดเลขที่……………………………เลขที่ที่ดิน……………..
ระวาง……………………ตำบล/แขวง…………….อำเภอ/เขต………………….จังหวัด………………..
เนื้อที่……………….ไร่……….งาน……………..ตารางวา พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างประเภท
    ตึกแถว/อาคารจำนวน………..หลัง หลังละ ………ชั้น เลขที่ ………..ตั้งอยู่ ณ ………….
    บ้านจำนวน ………หลัง หลังละ ………..ชั้น เลขที่……….ตั้งอยู่ ณ …………………….
    อื่น ๆ  (ระบุ) ………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………..
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า  “ทรัพย์สิน”
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
    ข้อ  1.  ผู้ให้เช่าซื้อตกลงให้เช่าซื้อและผู้เช่าซื้อตกลงเช่าซื้อทรัพย์อันเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าซื้อดังกล่าวในราคา …………………………………..บาท (……………………………….)
    ข้อ  2.  ผู้เช่าซื้อได้ชำระเงินสดจำนวน………………..บาท (……………………………………)
ในวันที่ทำสัญญาฉบับนี้   และยังคงค้างอยู่อีกจำนวน…………………บาท (……………………………) โดยผู้เช่าซื้อจะแบ่งชำระเป็นงวดรายเดือนดังต่อไปนี้
    งวดที่  1    จำนวน ……………บาท (…………………………) ชำระวันที่ …………………….
    งวดที่  2    จำนวน ……………บาท (…………………………) ชำระวันที่ …………………….
    งวดที่  3    จำนวน ……………บาท (…………………………) ชำระวันที่ …………………….
    งวดที่ ……………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ข้อ  3.  ผู้เช่าซื้อจะชำระเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายงวดเดือนตามข้อ 2) ทุกวัน …………ของเดือนโดยเริ่มตั้งแต่เดือน…………………………จนถึงเดือน …………………….อันเป็นการชำระเสร็จสิ้น ทั้งนี้ผู้เช่าซื้อตกลงทำการชำระค่าเช่าซื้อเป็น
    เงินสด
    แคสเชียร์เช็ค  ธนาคาร ………………….สาขา ……………….สั่งจ่า……………
ข้อ  4.  เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ตามสัญญาฉบับนี้ ผู้เช่าซื้อได้นำ
    ………………………………………………………………………ค้ำประกัน
    ทรัพย์ประเภท………………………………………จำนำ/จำนองไว้แก่ผู้ให้เช่าซื้อซึ่งหากผู้เช่าซื้อผิดนัดผิดสัญญางวดหนึ่งงวดใดตามสัญญาฉบับนี้แล้ว  ผู้ให้เช่าซื้อสามารถบังคับเอาจากบุคคลหรือทรัพย์สินที่นำมาจำนำ/จำนองไว้เพื่อชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ   อันเกิดขึ้นจากการผิดนัดผิดสัญญานี้   เช่น  การบอกเลิกสัญญา   การค้างชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใด
   
    ข้อ  5.  ผู้เช่าสัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปให้บุคคลอื่นเช่าหรือเช่าซื่อช่วงตลอดจนดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไข เพิ่มเติม   ตัดถอนทรัพย์สินที่เช่าซื้อ    เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าซื้อแล้ว
   
    ข้อ  6.  ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะบำรุงรักษา ดูแลและซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้คงอยู่ในสภาพที่ดีเสมอ และผู้เช่าซื้อจะนำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปทำประกันภัยไว้โดยผู้เช่าซื้อจะเป็นผู้รับภาระในการส่งเบี้ยประกันภัยตลอดอายุสัญญาฉบับนี้ และผู้เช่าซื้อจะระบุชื่อผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์   ตามสัญญาประกันภัยดังกล่าวด้วย
   
    ข้อ  7.  หากผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดหรือกระทำการอันเป็นการผิดสัญญางวดหนึ่งงวดใดแล้ว ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญา   เรียกค่าปรับและค่าเสียหายต่าง ๆ ได้พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ …………ต่อปี นับแต่เวลาที่มีการผิดนัดผิดสัญญาดังกล่าว
   
    ข้อ  8.  หากผู้เช่าซื้อมีความประสงค์จะโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาฉบับนี้ให้แก่บุคคลอื่นผู้เช่าซื้อต้องทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้เช่าซื้อก่อน และเมื่อผู้ให้เช่าซื้ออนุญาตเป็นหนังสือแก่ผู้เช่าซื้อแล้วจึงจะสามารถดำเนินการโอนสิทธิและหน้าที่ไปยังบุคคลอื่นได้   บุคคลอื่นผู้รับโอนตกลงจะปฏิบัติตามข้อตกลงและหลักเกณฑ์ที่คู่สัญญานี้ได้ตกลงกันอยู่ก่อนแล้ว
    อนึ่ง   ค่าใช้จ่าย  ค่าธรรมเนียม  และอากรแสตมป์ในการโอนสิทธิและหน้าที่  ผู้เช่าซื้อเป็นผู้รับภาระเองทั้งสิ้น
  
    ข้อ  9.  เมื่อผู้เช่าซื้อชำระเงินครบตามจำนวนในสัญญาฉบับนี้แล้ว   ผู้ให้เช่าซื้อจะทำหนังสือส่งแก่ผู้เช่าซื้อภายใน…………วัน เพื่อดำเนินการจดทะเบียนสิทธิที่สำนักงานที่ดินอำเภอ/เขต……………
จังหวัด……………………….นับแต่วันที่ชำระเงินรายงวดเดือนสุดท้ายเสร็จสิ้นลงหากผู้ให้เช่าซื่อไม่ดำเนินการดังกล่าวแล้ว   ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกเอาค่าเสียหายใด    ๆ อันเกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าวของผู้ให้เช่าซื้อได้
    สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจในสัญญานี้ดีแล้วจึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยาน  และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่าซื้อ   ลงชื่อ………………………………….ผู้เช่าซื้อ
        (……………………………………)                          (……………………………………)
ลงชื่อ……………………………………พยาน       ลงชื่อ……………………………………พยาน   
        (……………………………………)                           (……………………………………)

สัญญาเช่าซื้อที่ดินและอาคาร

สัญญาเช่าซื้อที่ดินและอาคาร
วันที่………..เดือน………………………….. พ.ศ……..…
        หนังสือสัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง…………………………………………โดย
………………………………………………………. ซึ่งในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้ให้เช่าซื้อ" ฝ่ายหนึ่ง
กับ…………………………. อายุ…………ปี อยู่บ้านเลขที่…………….. หมู่ที่………..
ถนน…………………………. ซอย………………. แขวง/ตำบล…………………….
เขต/อำเภอ…………………. จังหวัด…………………………….. โทร. …………………….
ซึ่งในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้เช่าซื้อ" อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมทำข้อตกลงและเงื่อนไขกัน ดังมี
ข้อความต่อไปนี้
        ข้อ 1.  ผู้ให้เช่าซื้อตกลงยินยอมให้ผู้เช่าซื้อ เช่าซื้อที่ดินและอาคารในที่ดินแปลงหมายเลขที่………….(ตามแผนผังแนบท้ายสัญญานี้)  ในโฉนดหรือส่วนหนึ่งของโฉนดเลขที่……….
เลขที่ดิน…………ระวาง………… ตำบล…………… อำเภอ………..จังหวัด………….. เป็นจำนวนเนื้อที่ประมาณ…………. ตารางวา กว้างประมาณ…………..เมตร ยาวประมาณ…………………..เมตร และอาคารบ้านเลขที่…………
ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเช่าซื้อกันตามสภาพของอาคารที่ได้ก่อสร้างไว้แล้วจำนวนหนึ่งหลัง  ซึ่งตั้งอยู่บน
ที่ดินดังกล่าวข้างต้น  โดยผู้เช่าซื้อได้ไปตรวจดูสภาพอาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  หากเนื้อที่ที่ดินซึ่งมีการแบ่งแยกแล้วมีจำนวนขาดหรือเกิน ผิดไปจากที่ตกลงกันไว้ในสัญญา  คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายยินดีตกลงให้ลดหรือเพิ่ม
จำนวนเงินตามเนื้อที่ในโฉนดเป็นราคาตารางวาละ……………..บาท (………………………………)
        ข้อ 2.  ผู้ให้เช่าซื้อได้ตกลงราคาที่ดินและอาคารตามสัญญาในข้อ 1.  ในขณะสัญญานี้ชำระเงินให้
ไม่ครบตามจำนวนนี้  ส่วนที่เป็นราคาเงินสดคงเหลืออยู่เท่าใด  ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อคิดอัตราดอกผล
เช่าซื้อได้ร้อยละ………..บาทต่อปี นับตั้งแต่วันทำสัญญานี้เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเงินครบถ้วนตามสัญญานี้
        ข้อ 3.  ในวันทำสัญญานี้ ผู้เช่าซื้อได้ขอชำระเงินล่วงหน้าไว้เป็นเงิน………………………….บาท
(……………………………….…..)  และยังคงค้างอยู่เป็นราคาเงินสดสุทธิ……………………...บาท
(…………………………………...) โดยผู้เช่าซื้อต้องชำระพร้อมดอกผลเช่าซื้อตามสัญญาใน ข้อ 2.
คิดเป็นราคาเช่าซื้อซึ่งต้องชำระเป็นเงินรายงวด  งวดละไม่น้อยกว่า………………………………บาท
(……………………………………...) มีกำหนดระยะเวลา………………………เดือน โดยให้
ชำระภายในวันที่………ของทุกเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือน…….. พ.ศ. …….เป็นต้นไป
        ถ้าหากยังมีราคาเงินสดสุทธิหรือราคาเช่าซื้อคงเหลืออยู่อีก  เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาใน
ข้อ 3. ให้ผู้เช่าซื้อชำระให้ครบถ้วนในงวดสุดท้ายด้วย
        วิธีการชำระเงินรายงวดของผู้เช่าซื้อที่ชำระในแต่ละงวด  ให้ผู้ให้เช่าซื้อจัดชำระเป็นดอกผลเช่าซื้อก่อน  แล้วที่เหลือก็ให้หักเป็นราคาเงินสดประจำงวดนั้น ๆ  คิดคงเหลือเป็นราคาเงินสดสุทธิคงเหลือแต่ละงวด
        ข้อ 4.  ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อขอชำระราคาเงินสดประจำงวด หรือส่วนของราคาเงินสดสุทธิคงเหลือ
ก่อนกำหนด  ผู้ให้เช่าซื้อจะไม่คิดดอกผลเช่าซื้อสำหรับของราคาเงินสดสุทธิที่ลดลงหรือหมดไป  เนื่องจาก
การขอชำระราคาเงินสดประจำงวดหรืออาคารเงินสุทธิคงเหลือตามระยะเวลาที่ชำระก่อนกำหนดนั้น  แต่ให้
ผู้เช่าซื้อเรียกเป็นค่าชดเชยจากผู้เช่าซื้อได้ในอัตราร้อยละ 1 ของราคาเงินสดประจำงวด หรือส่วนของราคาเงินสดสุทธิที่ผู้เช่าซื้อชำระ
        ข้อ 5.  ผู้เช่าซื้อขอรับรองว่าผู้เช่าซื้อมีความสามารถในการชำระราคาเช่าซื้อตามสัญญานี้ได้ โดยมี
รายได้ประจำเดือนละไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราการชำระเงินรายงวด  และมีความสามารถในการทำนิติกรรมตลอดจนมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนตามที่กฎหมายหรือระเบียบของทางราชการกำหนด
        ในระหว่างเวลาเช่าซื้อ  ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อจัดหาสถาบันการเงินหรือธนาคารรับจำนอง
เพื่อให้ผู้เช่าซื้อจะได้มีโอกาสชำระราคาเช่าซื้อ  พร้อมทั้งดอกผลเช่าซื้อในอัตราที่ไม่เกินกว่าที่ได้ชำระกับ
ผู้เช่าซื้อ  และเพื่อจะชำระราคาเช่าซื้อให้กับผู้ให้เช่าซื้อได้ก่อนกำหนดในสัญญา  โดยผู้เช่าซื้อจะต้องนำหลักฐานซึ่งแสดงคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ใช้ในการประกอบการกู้เงินผ่อนชำระกับสถาบันการเงินนั้น ๆ
มามอบให้กับผู้เช่าซื้อเพื่อพิจารณาการยื่นกู้ก่อน ภายในเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันทำสัญญานี้ ดังนี้
        1.  บัตรประจำตัวหรือบัตรข้าราชการหรือองค์การ (ถ่ายเอกสาร)
        2.  สำเนาทะเบียนบ้าน
        3.  ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า มรณะบัตร แล้วแต่กรณี (ถ่ายเอกสาร)
        4.  ใบรับรองอัตราจ้างเงินเดือน (สำหรับข้าราชการใช้แบบฟอร์มของทางราชการ มีผู้ลงนามรับรอง
ระดับหัวหน้ากองขึ้นไป  สำหรับลูกจ้างเอกชนใช้แบบฟอร์มของบริษัท ห้างร้าน  โดยมีผู้จัดการเป็นผู้ลงนามรับรอง)
        สำหรับอาชีพอิสระ  ให้นำหลักฐานการประกอบอาชีพนั้น ๆ เช่น ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์
หนังสือรับรองของกระทรวงพาณิชย์ หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ และบัญชีเงินฝากแสดงฐานะทางการเงินไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งมีการฝากเดือนละไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราผ่อนชำระ
        1.  ในกรณีที่ผู้กู้มีบิดามารดา มีสัญชาติเป็นคนต่างด้าว ก็ต้องถ่ายเอกสารสำเนาใบต่างด้าวไปด้วย
(หน้า 1 ถึง หน้า 5 และหน้าต่ออายุการเสียค่าธรรมเนียมครั้งสุดท้าย)
        2.  ในกรณีที่มีผู้กู้ร่วม ให้ผู้กู้ร่วมนำหลักฐานต่าง ๆ ตามข้อ 1 - 5 ข้างต้นไปด้วย
        เมื่อผู้ให้เช่าซื้อได้พิจาณาคุณสมบัติของผู้เช่าซื้อครบถ้วนและถูกต้อง  ก็ให้ผู้เช่าซื้อต้องไปยื่นเรื่อง
ขอกู้กับสถาบันการเงินที่ผู้ให้เช่าซื้อจัดหา ภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ให้เช่าซื้อได้แจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
        ข้อ 6.  ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปให้บุคคลอื่นหรือเช่าซื้อช่วง ตลอดจนไม่ต่อเติมแก้ไขเปลี่ยนแปลง เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าซื้อเสียก่อน หรือใช้ทรัพย์สินนั้นให้เป็นที่เสียหายหรือรวบกวนสิทธิของผู้อื่น  พร้อมทั้งจะต้องบำรุงดูแลรักษา หรือซ่อมแซมทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้คงอยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ  หากผู้เช่าซื้อมิได้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว  ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายและบอกเลิกสัญญาก็ได้  หากได้มีหนังสือบกเลิกล่วงหน้าครบกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือบอกเลิกแล้ว  ผู้เช่าซื้อยังไม่สามารถแก้ไขสิ่งบกพร่องหรือปฏิบัติตามสัญญาให้เป็นที่พอใจแก่ผู้ให้เช่าซื้อได้อีก
        ข้อ 7.  หากผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดในงวดหนึ่ง ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อเรียกค่าปรับได้ในอัตราที่ไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ให้เช่าซื้อพึงเรียกได้ตามกฎหมาย
        ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดตามสัญญาในข้อ 3. สองงวดติด ๆ กัน ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาได้ หากโดยได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาและจะแจ้งเหตุผลให้ทราบล่วงหน้าครบกำหนด 30 วัน นับตั้งแต่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือบอกเลิกแล้ว ผู้เช่าซื้อก็ยังละเลยไม่ชำระเงินรายงวดให้ครบ
        ข้อ 8.  ในกรณีที่ผู้ให้เช่าซื้อจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอัตราดอกผลเช่าซื้อให้สูงกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 2.  ผู้เช่าซื้อยินยอมให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิที่จะทำได้โดยให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้าแล้ว30 วัน ก่อนการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกผลเช่าซื้อกัน และผู้เช่าซื้อจะต้องเริ่มชำระดอกผลเช่าซื้อในอัตราใหม่ต่อไปด้วย
        ข้อ 9.  ถ้าผู้เช่าซื้อมีความประสงค์จะโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่าซื้อนี้ให้กับบุคคลอื่นก็ได้
ต่อเมื่อได้มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ให้เช่าซื้อทราบ  และจะต้องได้รับความยินยอมเสียก่อนจึงจะโอนสิทธิและหน้าที่กันได้  ซึ่งบุคคลผู้รับโอนสิทธิและหน้าที่ใหม่นี้จะต้องมีคุณสมบัติและต้องยอมปฏิบัติตามข้อตกลงและหลักเกณฑ์ที่คู่สัญญาเดิมทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้แล้ว
        อนึ่ง ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์ในการโอนสิทธิหน้าที่ใหม่ก็ดี หรือในการทำใบแทน
หรือสำเนาสัญญาเช่าซื้อซึ่งของเดิมชำรุดหรือสูญหายให้กับผู้เช่าซื้อก็ดี  ให้ผู้รับโอนสิทธิหรือผู้เช่าซื้อแล้วแต่กรณีเป็นผู้ออกเองทั้งสิ้น
        ข้อ 10.  ผู้เช่าซื้อต้องเป็นผู้เอาประกันและเสียเบี้ยประกันภัยในทรัพย์สินที่เช่าซื้อกับบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้จัดหา  รวมทั้งผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่าภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือภาษีทรัพย์สินส่วนของทรัพย์สินที่เช่าซื้อไว้  โดยหากผู้ให้เช่าซื้อได้เป็นผู้ออกชำระให้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว  ให้ผู้เช่าซื้อต้องชำระคืนให้ผู้ให้เช่าซื้อจนครบภายในเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ผู้ให้เช่าซื้อได้ออกชำระก่อนแล้ว
        ข้อ 11.  ผู้เช่าซื้อยินยอมร่วมกับผู้เช่าซื้ออื่น ๆ ที่จะออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์
ของผู้ซื้อร่วมกัน เช่น ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าบำรุงรักษาความสะอาด ถนน ท่อระบายน้ำ ตลอดจนค่าไฟฟ้าแสงสว่าง และค่าซ่อมแซมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับประโยชน์ส่วนรวมด้วย  ถ้าหากผู้ให้เช่าซื้อได้เป็นผู้ออกชำระล่วงหน้าหรือแทนไปก่อนแล้ว  ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระคืนส่วนของตนให้ครบภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ให้เช่าซื้อได้ออกชำระไปแล้ว
     
  ข้อ 12.  เมื่อผู้เช่าซื้อได้ชำระราคาเช่าซื้อจนครบถ้วนตามสัญญาใน ข้อ 3.  หรือได้ชำระราคาเงินสด
สุทธิรวมทั้งดอกผลเช่าซื้อคงค้าง หรือเงินค่าชดเชยตามสัญญา ข้อ 4. ครบถ้วนแล้ว และเมื่อผู้เช่าซื้อได้นำหรือจัดหาหลักฐานทางเอกสารที่ต้องใช้ในการทำนิติกรรมมามอบให้หรือมาครบถ้วนแล้ว  ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องจัดการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าซื้อกันนี้ให้กับผู้เช่าซื้อให้เป็นที่เรียบร้อยภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้ส่งหรือจัดหาหลักฐานมาครบถ้วน  โดยการนี้ค่าธรรมเนียมในการทำนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้ออกเองทั้งสิ้น
        หากผู้ให้เช่าซื้อบิดพลิ้วไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้เช่าซื้อได้ตามสัญญา  ผู้ให้เช่าซื้อยินยอมให้
ผู้เช่าซื้อเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามจำนวนเงินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้เต็มจำนวน
        หากผู้ให้เช่าซื้อบิดพลิ้วไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้เช่าซื้อได้ตามสัญญา  ผู้ให้เช่าซื้อยินยอมให้
ผู้เช่าซื้อเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามจำนวนเงินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้เต็มจำนวน
        หนังสือสัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อตกลงถูกต้องตรงกันทั้งสองฉบับ และคู่สัญญาทั้งสอง
ฝ่ายได้อ่านข้อความในสัญญานี้เป็นที่เข้าใจดีแล้ว  จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยานและต่างได้ยึดถือสัญญาไว้ฝ่ายละหนึ่งฉบับ  (ฉบับนี้สำหรับ……………………………………….)


                    ลงชื่อ ……………………………………………….. ผู้ให้เช่าซื้อ
                            (…………………………………………………)

                    ลงชื่อ ……………………………………………….. ผู้เช่าซื้อ
                            (…………………………………………………)

                    ลงชื่อ ……………………………………………….. พยาน
                            (…………………………………………………)

                    ลงชื่อ ……………………………………………….. พยาน/ผู้เขียน
                            (…………………………………………………)

หมายเหตุ  ผู้ให้เช่าซื้อต้องติดอากรแสตมป์ 1 บาท ต่อเงิน 1,000 บาท ส่วนที่เกิน 1,000 บาท ให้ติดอีก 1 บาท