สัญญาให้เช่าที่ดินระยะยาว
สถานที่ทำสัญญา……………………………….
วันที่………………..เดือน…………………..พ.ศ. …………….
สัญญานี้ทำในระหว่าง…………………………….ตั้งอยู่เลขที่………………………..ถนน………………ตรอก/ซอย …………………ตำบล/แขวง…………………..…………………….อำเภอ/เขต……………………จังหวัด…………………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า”
ฝ่ายหนึ่ง กับ ……………………….สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ ………………….ถนน………………….
ตรอก/ซอย ………..…ตำบล/แขวง…….…….อำเภอ/เขต………………จังหวัด…………………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาไว้ต่อกันดังมีข้อความต่อไปนี้: -
ข้อ 1. ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่า ผู้เช่าตกลงเช่าที่ดินตั้งอยู่ที่……………ตามหมายเลขโฉนดที่……..
…………………เลขที่ดิน……………..ตำบล/แขวง ………..อำเภอ/เขต…………...
จังหวัด…………..มีเนื้อที่…………………ไร่ ………………งาน ……….ตารางวา เพื่อประโยชน์
ในการ…………………………………………………………………………………………….
ข้อ 2. ผู้เช่าสัญญาว่า จะใช้ที่ดินดังกล่าวเพื่อ…………………………………………………..
เท่านั้น หากผู้เช่าประสงค์จะก่อสร้างอาคารหรือเปิดกิจการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ดังกล่าวแล้วผู้เช่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน
ข้อ 3. ผู้เช่าสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าดังนี้:-
3.1 ตั้งแต่วันที่ ………ถึงวันที่ …………..ค่าเช่าเดือนละ ………………บาท (……………………)
3.2 ตั้งแต่วันที่……… ถึงวันที่ ……….….ค่าเช่าเดือนละ ……...…......…บาท (………....…………)
ในระหว่างเวลาที่ตกลงเช่ากันนี้ ถ้าค่าของเงินบาทไทยเทียบกับค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินในท้องตลาดลดต่ำลงหรือสูงขึ้นเกินกว่า 20% ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินในวันทำสัญญานี้แล้วคู่สัญญาต่างตกลงกันเปลี่ยนอัตราค่าเช่าเสียใหม่โดยคิดอัตราค่าเช่าเพิ่มหรือลดลงตามส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น (อัตราแลกเปลี่ยนในวันทำสัญญานี้ หนึ่งดอลล่าร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ …………………………..บาท ในการชำระค่าเช่า ผู้เช่าตกลงชำระเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นงวด ๆ ละ …………เดือน ภายในกำหนด………..วัน นับแต่วันต้นงวดของวดนั้น ๆ
ข้อ 4. สำหรับอายุการเช่านั้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้เช่าและเช่าเริ่มตั้งแต่วันที่ ………..เดือน
…………พ.ศ. ……………….จนถึงวันที่ ……………..เดือน ……………..พ.ศ. …………….
เมื่อพ้นวันที่……………….เดือน …………………….พ.ศ. …………..อันเป็นวันสิ้นสุดแห่งสัญญาเช่านั้นแล้ว ผู้เช่ายอมให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่อยู่ในที่ดินแปลงนี้ ทั้งอุปกรณ์และส่วนควบต่าง ๆ และรวมทั้งสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ที่ใช้เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวแล้ว หรือเกี่ยวเนื่องกับกิจการดังกล่าว ซึ่งหมายรวมถึงเครื่องเฟอร์นิเจอร์เครื่องทำความเย็น พัดลม เครื่องโทรศัพท์ เครื่องไฟฟ้า เครื่องซักผ้า เครื่องครัว ฯลฯ ทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าทันที โดยปลอดจากภาระจำนองและหนี้สินใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 5. เมื่ออาคารสิ่งปลูกสร้างและสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ดังกล่าวในข้อ 4 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าแล้วผู้ให้เช่าสัญญาว่าจะยอมให้ผู้เช่าได้เช่าเพื่อประกอบกิจการต่อไปอีกมีกำหนดอีก ……ปี
นับแต่วันหมดอายุสัญญาเช่า ส่วนอัตราค่าเช่าแล้วแต่จะตกลงกันด้วยเหตุผลและเป็นธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่ายตามสภาพการณ์ในขณะนั้น
ข้อ 6. เมื่อผู้ให้เช่าได้จ่ายเงินค่าภาษีที่ดินก็ดี ภาษีและค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่เกิดจาก หรือเกี่ยวเนื่องกับที่ดินที่เช่าในขณะนี้ หรือที่อาจจะมีขึ้นในภายหน้าก็ดี เมื่อผู้ให้เช่าชำระไปแล้วผู้ให้เช่ามีสิทธิจะเรียกร้องจากผู้เช่าได้ทุก ๆ ครั้งที่ผู้ให้เช่าได้จ่ายไปตลอดเวลาที่เช่าอยู่นั้นทั้งสิ้น โดยเงินดังกล่าวทั้งสองถือว่าเป็นค่าเช่าเพิ่มเติมที่ผู้เช่าจะต้องชำระให้แก่ผู้ให้เช่า เมื่อผู้ให้เช่าเรียกร้อง
ข้อ 7. ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่านำที่ดินหรืออาคารที่ปลูกสร้างไปให้ผู้อื่นเช่าช่วงได้ แต่จะต้องอยู่ภายในกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญานี้ และผู้เช่ามีหน้าที่จะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันตกลงกับผู้เช่าช่วง
หากมีผู้อื่นมาปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน จะเป็นกรณีให้เช่าช่วงหรือปลูกสร้างโดยกรณีใด ๆ ก็ตาม เมื่อสัญญานี้หมดกำหนดอายุสัญญาเช่าแล้ว อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นจะต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าตามสัญญาข้อ 4. ทันที หากไม่อาจจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าตามกฎหมายได้ด้วยประการใด ๆ ผู้เช่ายอมชดใช้ราคาอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นให้ผู้ให้เช่าตามราคาค่าก่อสร้างในขณะนั้น
ข้อ 8. ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่านำเอาอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกอยู่ในที่ดินของผู้ให้เช่าตามสัญญานี้ ไปทำการจำนองหรือเป็นประกันหนี้กับธนาคารพาณิชย์หรือบุคคลใดได้ตามที่เห็นสมควร แต่ผู้เช่าจะต้องแจ้งรายการละเอียดให้ผู้ให้เช่าได้ทราบล่วงหน้าทุกครั้งที่จะมีการจำนองหรือประกันหนี้นั้น
การจำนองหรือการค้ำประกันหนี้ดังกล่าวในวรรคก่อน จะต้องมีระยะเวลาไม่นานเกินกว่า ….ปีนับแต่วันทำสัญญานี้ และไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้เช่าจะต้องทำการไถ่ถอนการจำนองหรือการประกันหนี้ เพื่อให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างอันเกี่ยวเนื่องกับกิจการ …………………………นั้นปลอดจากการจำนองหรือการประกันหนี้ภายในวันที่ …………..เดือน ………………..พ.ศ………………..
หากผู้เช่าไม่ทำการไถ่ถอนหรือไม่สามารถทำการไถ่ถอนการจำนองหรือการประกันหนี้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ได้ภายในกำหนดดังกล่าวในวรรคสอง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้สัญญาเช่าฉบับนี้สิ้นสุดทันทีและให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งอุปกรณ์และส่วนควบต่าง ๆ และ ฯลฯ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 4. ตกเป็นของผู้ให้เช่าทันที ในการนี้ถ้าหากเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่าต้องได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากภาระจำนองหรือการบังคับจำนองก็ดีหรือเกิดจากหนี้สินใด ๆ ที่ผู้เช่าได้กระทำไว้ก็ดี ผู้เช่ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้นตลอดจนดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากเงินค่าเสียหายนั้นให้แก่ผู้ให้เช่าจนครบถ้วน
ข้อ 9. หากผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตามข้อ 3. หรือไม่จ่ายค่าภาษีอันถือว่าเป็นค่าเช่าเพิ่มเติมตามข้อ 6. ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าได้ แต่ผู้ให้เช่าจะต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้เช่านำเงินค่าเช่าตามข้อ 3. หรือเงินภาษีตามข้อ 6. มาชำระเสียครั้งหนึ่งก่อน ภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่คำบอกกล่าวได้ไปถึงผู้เช่า หากผู้เช่าละเลยก็ให้อาคารที่ปลูกสร้างทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าตามนัยสัญญาข้อ 4. และข้อ 7. ด้วย
ข้อ 10 ผู้ให้เช่าและผู้เช่าตกลงกันให้สัญญานี้เริ่มแต่วันที่ ……เดือน………พ.ศ. ………..เป็นต้นไป
สัญญานี้ได้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อตรงกัน ผู้ให้เช่าและผู้เช่าได้อ่านข้อความในสัญญานี้เข้าใจดีแล้วจึงลงชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยาน และต่างได้เก็บไว้เป็นหลักฐานฝ่ายละหนึ่งฉบับ
ลงชื่อ……………………………………ผู้ให้เช่า
(………………………………………)
ลงชื่อ…………………………………….ผู้เช่า
(…………………..…………………)
ลงชื่อ……………………………………พยาน
(………………………………………)
ลงชื่อ……………………………………พยาน
(………………………………………)
ลงชื่อ……………………………………พยาน
(………………………………………)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น