สัญญาเช่าร้านค้าในห้างสรรพสินค้า
เขียนที่……………………………….……………
วันที่…………เดือน…………………..พ.ศ.………………
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง……………………โดย…………………………...ผู้มีอำนาจกระทำการแทน สำนักงานตั้งอยู่ ณ…………………..ตรอก/ซอย………………….ถนน……………………ตำบล/แขวง…………………อำเภอ………………จังหวัด………………...ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ให้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง กับ…………………..อยู่บ้านเลขที่…………………ตรอก/ซอย…………………..ถนน………………ตำบล/แขวง………………อำเภอ……………จังหวัด……………………..ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้เช่า” ฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าสถานที่ภายในห้างสรรพสินค้าบริเวณชั้น…………เนื้อที่…………ตารางเมตร หมายเลขที่……………..มีกำหนด………….ปี………..เดือน ตั้งแต่วันที่………………ถึงวันที่……………..ณ ห้างสรรพสินค้า……………………… ตั้งอยู่เขต…………….จังหวัด…………….ในอัตราค่าเช่าเดือนละ……………บาท (……………………) โดยในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้เช่าได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าเป็นระยะเวลา ………………….เดือน เป็นเงินจำนวน…………………….บาท (…………………)ให้แก่ผู้ให้เช่า และต่อไปจะชำระทุกวันที่…………………..ของเดือน ณ สำนักงานของผู้ให้เช่า
ข้อ 2. ผู้เช่าต้องชำระค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าที่ใช้ในกิจการร้านค้าของผู้เช่าตามจำนวนที่ปรากฏในมาตรวัน และต้องชำระค่าอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่า ยามรักษาการณ์ ค่าเก็บขยะ เป็นต้น โดยผู้เช่าตกลงจะชำระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทุกวันที่…………………ของเดือน
ข้อ 3. ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของผู้ให้เช่ามีอำนาจในการควบคุมดูแลการดำเนินกิจการของผู้เช่าให้เป็นไปตามสัญญา ควบคุมด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะทั่วไป และอื่นๆ (ถ้ามี) เพื่อให้การดำเนินกิจการของผู้เช่าเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับกิจการอื่นๆ ที่ผู้ให้เช่าเปิดบริการไว้
ข้อ 4. ผู้เช่าต้องสงวนรักษาทรัพย์สินที่เช่านั้นเสมอกับวิญญูชนจะพึงสงวนรักษาทรัพย์สินของตนและต้องบำรุงรักษาทั้งทำการซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย
ข้อ 5. ผู้เช่าจะไม่ทำการแก้ไข เพิ่มเติม ดัดแปลงทรัพย์สินที่เช่า เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า บรรดาทรัพย์สินใด ที่ผู้เช่าได้ทำการแก้ไข เพิ่มเติม ดังแปลงไปนั้น ผู้เช่ายินยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าในทันทีที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง และผู้เช่าจะไม่เรียกร้องเอาค่าใช้จ่ายและค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากผู้ให้เช่าไม่ต้องการทรัพย์สินดังกล่าวผู้เช่าจะดำเนินการรื้อถอน ซ่อมแซมต่อไปให้ทรัพย์สินที่เช่าอยู่ในสภาพเดิมโดยผู้เช่าต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ข้อ 6. ผู้เช่าไม่มีสิทธิที่จะนำเอาทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญานี้ออกให้เช่าช่วงไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นหนังสือก่อนแล้ว
ข้อ 7. หากผู้เช่าประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนดตามสัญญาฉบับนี้แล้ว ผู้เช่าต้องแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ให้เช่าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า………….วัน
ข้อ 8. ผู้เช่าต้องรับผิดชอบในบรรดาความเสียหาย สูญหาย หรือบุบสลายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เช่าตามสัญญาฉบับนี้อันเกิดจากการกระทำของผู้เช่า หรือคนงาน หรือบริวารของผู้เช่า และผู้เช่าต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้ให้เช่าและจัดการซ่อมแซมให้สามารถใช้ได้ดีดังเดิมด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าเอง ภายในเวลาที่ผู้ให้เช่าจะกำหนดต่อไป
ข้อ 9. ในวันทำสัญญาฉบับนี้ผู้เช่าได้นำ
• ………………………………………………เป็นผู้ค้ำประกัน
• หลักทรัพย์ประเภทหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร/เงินสดจำนวน…………บาท (………………….) ให้ไว้แก่ผู้ให้เช่าเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญา ถ้าผู้เช่าไม่ชำระหนี้ตามสัญญา ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญา หรือเรียกเอากับผู้ค้ำประกันเหมือนอย่างเป็นลูกหนี้ร่วมกับผู้เช่าตามสัญญาฉบับนี้ได้ทันทีเช่นกัน
ข้อ 10. เมื่อสัญญาเช่าสิ้นสุดลงไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากทรัพย์สินที่เช่า และส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืนแก่ผู้ให้เช่าในสภาพที่เรียบร้อยภายในกำหนด……………..วัน นับแต่วันที่ทำสัญญาเช่าสิ้นสุดลง
หากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามความดังกล่าวข้างต้น ผู้เช่ายินยอมให้ผู้ให้เช่าจัดการหรือจ้างให้ผู้อื่นจัดการแทน ทั้งนี้ โดยผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายอันพึงมีแทนผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจแล้ว จึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเป็นสำคัญ และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้เช่า ลงชื่อ……………………………………ผู้เช่า
(…………..…………………………) (………………………………………)
ลงชื่อ………………………………………พยาน ลงชื่อ……………………………………พยาน
(………………………………….…) (………………………………………)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น